เที่ยวตัวเมืองสุราษฎร์ธานีแบบชิลล์ๆ 1 วัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ ได้ลองลิ้มรสอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ชมความงามของวัดวาอาราม และ สัมผัสธรรมชาติบนเกาะในเมือง
เดินจากโรงแรมที่พักบนถนนศรีวิชัย ข้ามแม่น้ำตาปี ไปยังถนนตลาดใหม่ จนถึงสี่แยกจุดตัดถนนหน้าเมืองและถนนวัดโพธิ์ เลี้ยวขวาเข้าถนนวัดโพธิ์เพื่อไปยังวัดโพธาวาส ที่ติดกับแม่น้ำ MRBADBOY ได้นมัสการหลวงพ่อกล่อม อดีตเกจิที่มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องตะกรุด ในด้านแคล้วคลาดและคงกระพัน
ระหว่างนั้น บังเอิญได้รู้จักสองสาวพยาบาล ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ขอให้ช่วยถ่ายรูปให้และได้แนะนำ ร้านขนมจีนเส้นสด เมืองคอน หน้าเรือนจำ อย่างไม่รอช้า เดินออกจากวัดเลี้ยวขวาบนนถนนวัดโพธิ์ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนการุณราษฎร์ ก่อนที่จะเลี้ยวขวาถนนดอนนก ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร เดินชิลล์ๆ ถ่ายรูปไปเรื่อย
ที่นี่ ได้จัดให้เป็นชุดๆ ละ 60 บาท ที่ประกอบไปด้วย ขนมจีน 2 ถุง กับ 4 น้ำยา แกงไตปลา น้ำยาป่า น้ำยากะทิ และ น้ำพริก พร้อมชุดผักสดและผักดอง ที่เราสามารถเติมได้ไม่อั้นทั้งน้ำยาและผักสดผักดอง MRBADBOY ได้สั่งกุ้งทอดมาหนึ่งแพด้วย ระหว่างนั้น ได้เหลือบไปเห็นข้าวเหนียวทุเรียนกะทิสด แต่หมดแล้ว น่าเสียดายจริงๆ เลยเลือกกล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อนแทน ก็อร่อยดีนะ รสหอมและเข้มข้นทั้งกะทิและเนื้อมะพร้าวอ่อน
เป็นมื้อเช้าที่อิ่มมากๆ นั่งรถสองแถวไปเที่ยวและถ่ายรูปแถววัดไทร บ้านดอน ซึ่งเป็นชุมชนสองวัฒนธรรมของวัดไทรและศาลเจ้าบ้านดอน ที่ยังคงเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมอันสวยงาม และอาหาร จนกลายเป็นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่นี่ มีจุดหนึ่งที่คนชอบมาเก็บภาพคือ สะพานโค้ง 100 ปี ที่งดงาม ที่นี่มีตลาดนัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้วย
สะพานโค้ง หรือ สะพานขุนเศรษฐภักดี สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส แห่งเดียวในสุราษฎร์ธานี เชื่อมระหว่างอาคารขุนเศรษฐภักดี ทั้ง 2 ฝั่งให้สามารถสัญจรข้ามไปมาหากันได้ กลางสะพาน ได้มีการทำเป็นผนังไม้กั้นไว้ไม่สามารถสัญจรหากันได้เหมือนอดีต เนื่องจากอาคารทั้ง 2 ฝั่งไม่ได้เป็นเจ้าของเดียวกันแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สะพานอีกต่อไป
เลี้ยวเข้าวัดไทร ชมศาลาการเปรียญไม้ 100 ปี และพระอุโบสถ ที่สร้างเลียนแบบที่วัดราชบพิธ กรุงเทพฯ กับหน้าบรรณรูปนารายณ์ทรงครุฑ และซุ้มประตูทรงยอดมงกุฎ เลียนแบบวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในอดีต ที่นี่เคยถูกใช้เป็นที่บัญชาการรบของทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
มาต่อที่วัดกลางเก่า ใกล้ริมแม่น้ำตาปี เพียง 160 เมตรจากวัดไทร ก่อนที่จะเดินชมวิวและถ่ายรูปริมแม่น้ำและเรือจ้างแบบเล็กและใหญ่
ได้เวลาอาหารกลางวันละ เดินกลับไปที่วัดกลางเก่า เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบ้านดอนและเลี้ยวขวาเข้าถนนต้นโพธิ์ ก็ถึงร้านยกเข่ง เพียง 220 เมตร คนเยอะเหมือนกันแต่ก็รอจนได้ที่นั่ง เลยจัดไปชุดใหญ่ เกือบทุกเมนูมาลองดู โล่งโต้ง ตือฮวนเกี้ยมฉ่ายและผักบุ้งไต่ราว
โล่งโต้ง มองดูคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่น้ำ ใส่หมูแดง กระดูกหมูเปื่อย ฮือก้วย เต้าหู้หั่นทอด และ กุ้งทอด ขณะที่ผักบุ้งไต่ราว จะมีเส้นหมี่ขาว วางบนผักบุ้งและถั่วงอกลวก ท็อปปิ้งด้วยกุ้งชุบแป้งทอด เต้าหู้ทอด หมูชิ้น ราดด้วยน้ำซอสแดง รสชาติเปรี้ยวหวานไม่เผ็ด ทำให้ MRBADBOY นึกถึงเต้าคั่ว
หลังจากนั้นเดินไปถ่ายรูปศาลหลักเมือง ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร โดย GPS บอกให้เดินไปตามถนนต่างๆ แต่ MRBADBOY เลือกที่จะเดินเลียบแม่น้ำตาปีดีกว่า โดยเดินออกจากถนนต้นโพธิ์ แล้วเลี้ยวซ้ายจุดตัดถนนศรีตาปี ต่อไปเรื่อยๆ ถึงถนนบ้านดอนและถนนหน้าเมือง
ศาลหลักเมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองสุราษฎร์ ได้ถูกสร้างขึ้นตามศิลปกรรมศรีวิชัย กับอิทธิพลของชวา ลังกา และเขมร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งอาณาจักรศรีวิชัย มีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ตอนค่ำจะเปิดไฟประดับสวยงามมาก
แล้วเดินข้ามสะพานศรีตาปี (สะพานสีส้ม) ไปยังเกาะลำพู สะพานนี้จะเปิดไฟประดับเป็นสีธงชาติอย่างงดงามในตอนเย็น
ข้ามสะพานมาแล้ว เดินตรงไปถึงสามแยกเลี้ยวซ้าย จะเห็นร้านกาแฟ Organic Cafe และป้ายสวนสาธารณะ เกาะลำพู สีเขียว เดินเข้าไปจะผ่านร้านอาหารริมทาง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สถานีจ่ายน้ำบางใบไม้ แล้วจะมองเห็นทางขึ้นสะพานสีส้มที่ข้ามไปยังตัวเกาะ แต่เดิมต้องเดินทางโดยเรือ
หลังจากได้กลายเป็นบังกะโลและสวนอาหาร เกาะลำพู ได้ถูกนำกลับมาพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ร่มรื่น เอื้อต่อการผักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ฯลฯ เกาะลำพู ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเจ็ตสกีแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากการแข่งเรือยาวและชักพระของเรือพระทางน้ำอีกด้วย
