“แขก คำผกา” ยัน Voice TV ไม่ได้เปิดช่องใหม่

หลังจาก Voice TV ออกมาประกาศปิดกิจการ และยุติการออกอากาศ เลิกจ้างพนักงานมากกว่า 100 คนจนมีคนสงสัยว่า สาเหตุที่ปิดกิจการ เพราะจะไปเปิดช่องใหม่ หรือถูกยุบเพราะมีผู้ใหญ่ระดับบิ๊กสั่ง พิธีกร แขก คำผกา มาเปิดใจถึงความชื่นชมผลงาน ของนายกฯเศรษฐา ทวีสินในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.10 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27

เรื่องของธุรกิจ หรือความเสื่อม ความนิยมที่พรรคเพื่อไทยจับมือกับฝั่งรัฐประการ?

คิดว่าความศรัทธานี้มันพึ่งเกิดเมื่อปี 63 แต่ Voice เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 51 แล้วปี51-63 เราก็เป็นสื่อเหมือนที่คุณเกลียดถึงทุกวันนี้ และขึ้นพึ่งมารักเรา เมื่อประมาณปี 61-63 แต่พอเราไปจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว คุณแค่กลับไปเหมือนก่อนปี 62 เท่านั้นเอง

แต่เราก็ยอมรับว่าศรัทธามันลดลง?

คือเรื่องศรัทธาไม่ใช่เรื่องของแขก ถูกไหมคะ  เรื่องศรัทธาไม่ใช่เรื่องของ Voice เพราะ Voice ทำงานของตัวเองไป แต่ความศรัทธาเป็นเรื่องของประชาชนซึ่งเราบังคับเขาไม่ได้ ตอนที่เขาให้เราบอกว่าอย่ามาศรัทธาฉัน ก็พูดไม่ได้ ตอนที่เขาเสื่อมศรัทธาเรา เราบอกให้เขาหยุดเสื่อมศรัทธาเราก็พูดไม่ได้  เพราะทุกๆครั้ง แขกจะบอกทุกคนเสมอว่าอย่ามาศรัทธาเรา เราไม่ได้เป็นฮีโร่ เราแค่ยืนอยู่บนหลักการของเรา และเราประกอบสัมมาอาชีวะ เราไม่ได้มาเป็นพระผู้ไถ่ เราไม่ได้มาเป็นผู้ปลดปล่อย สิ่งที่เราอยากได้มากกว่าศรัทธาคือ สปอนเซอร์

คนพูดว่า Voice TV เป็นเครื่องมือของครอบครัวชินวัตร มาตลอด?

คำถามนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรก  Voice TV เป็นเครื่องมือ แขกไม่ใช้คำว่าตระกูลชินวัตรได้ไหมคะ แขกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นเครื่องมือทำ political campaign ให้กับพรรคเพื่อไทย อันนี้จริง แขกไม่เคยปฏิเสธ แต่ถามว่าการที่เราเป็นเครื่องมือให้กับพรรคการเมืองพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่ถูกรัฐประหาร 2 ครั้ง และถูกยุบพรรค 3 ครั้ง เราก่ออาชญากรรมหรือเปล่า ถ้า Voice TV เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนรัฐประหารจะเป็นสิ่งที่แขกอาย แต่ Voice TV เป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง ที่ยืนหยัดอยู่กับระบอบประชาธิปไตยในระบบเลือกตั้งเสมอมา และไม่มีแต่ 1 นาที ที่ Voice TV สนับสนุนรัฐประหาร ดังนั้นแขกสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า Voice TV เป็นเครื่องมือ และเป็นกระบอกเสียงของพรรคเพื่อไทย เพื่อต่อต้านรัฐประหาร และเพื่อให้สถาบันทางการเมือง ที่เรียกว่าพรรคการเมืองนั้น เข้มแข็ง ส่วนที่ 2 เป็นรัฐบาลแล้วไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือนี่แล้วหรือไม่ คำตอบของแขก พรรคการเมืองใดก็ตาม เมื่อได้มาเป็นรัฐบาลแล้ว ไม่ได้เป็นชั่วฟ้าดินสลาย คุณจะรู้ได้อย่างไร ดังนั้นมันไม่ใช่คำตอบที่เขาปิด Voice TVเพราะว่า ถ้าเขาได้เป็นรัฐบาล และได้เป็นจนชั่วฟ้าดินสลาย และเขาเลือก Voice TV ออกเพราะหมดฟังก์ชันแล้วนะ บาย แยกย้ายกันเติบโต เข้าใจได้ แต่ในเมื่อ ไม่มีอะไรรับประกันว่า พรรคเพื่อไทย จะเป็นรัฐบาลไปอีก 2 ปี 3 ปี 4 ปี และ 4 ปี เป็นรัฐบาลแล้ว เลือกตั้งอีกครั้งนึง เธอรู้ได้ไงว่าเลือกตั้งจะชนะ หรือแพ้ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าเครื่องมือทางการเมืองนี้ มันหมดฟังก์ชันแล้ว แขกไม่แน่ใจค่ะ

แขก คำผกาจะไปทำอะไรคะ และผู้อื่น 100 ชีวิตได้รับการดูแลเยียวยา?

น้องๆ ใน Voice TV ได้รับเงินชดเชย ตามกฎหมายบวก 1 สมมุติว่าตามกฎหมายได้ 6 พวกเขาจะได้ 7 และให้นับวันลาพักร้อนที่เหลือเป็นเงินหมดเลย ทุกคนแฮปปี้กับการชดเชยอันนี้ อย่างที่แขกบอกว่าทุกคนใน Voice TV ล้วนแต่เป็นจอมยุทธ์ ในยุทธภพนี้ สวยเลือกได้กันมาก หยิ่งมาก นั่งแบบผมคิดดูก่อนนะพี่ อันนี้เด็ก แต่ที่ลำบากพวกแขกนี่แหละค่ะ

แว่วว่าจะจัดช่องทีวีใหม่และผู้อำนวยการช่องคนใหม่ ชื่อ คำผกา จริงไหมคะ?

(หัวเราะ) ได้ยินมาจากไหนคะ เพราะว่าตัวแขกเองไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่มีค่ะ

ไม่น่าจะมีช่องใหม่ขึ้นมาแทน?

ไม่ใช่ ไม่น่ามีค่ะ ฟันธงว่าไม่มี อยากรู้อะไรมาถาม

พรรคที่เธอรักเหลือเกินมีผลงานอะไรเด่นๆให้เธอเชิดชูไหม?

อันดับแรก ผลงานที่แขกคิดว่าต้องให้เครดิตกับพรรคเพื่อไทย และกับคุณเศรษฐานั้นก็คือ สามารถสลายขั้วความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมายาวนานมากในประเทศไทย การสลายขั้วความขัดแย้งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เราจะลบประวัติศาสตร์ หรือปล่อยให้คนทำรัฐประหาร เข่นฆ่าประชาชนลอยนวล มันเป็นคนละเรื่องกัน การที่เรายังคงรักษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นใน 20 ปีที่ผ่านมา เรายังคงความทรงจำอันนี้ และยังคงเตือนความทรงจำกันบ่อยๆ มันเป็นหนึ่งเรื่อง แต่ว่าเรื่องที่สังคมยังคงต้องก้าวข้ามต่อไป ที่แขกเคยพูดในรายการนี้ ก็คือประชาธิปไตยในช่วงเปลี่ยนผ่าน และถามว่ากุญแจแห่งความสำเร็จกับประชาธิปไตยในช่วงเปลี่ยนผ่าน มันจะต้องทำให้ทุกฝ่ายมีที่ยืนพอสมควร ไม่เข่นฆ่าอีกฝ่ายหนึ่งจนหลังพิงฝา และไม่มีทางสู้ แขกคิดว่าอันนี้เป็นเครดิตของพรรคเพื่อไทย และเป็นเครดิตที่ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงมาก

คุณเศรษฐา เพิ่งพูดในงานเพื่อไทยว่า ในช่วงต้นที่มีการฟอร์มรัฐบาล เป็นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวด แต่เมื่อผ่านพ้นความเจ็บปวดไปแล้ว เราจะไปจมกับความเจ็บปวดไม่ได้ มันจะต้องเดินหน้าทำงาน ซึ่งอุปสรรคข้อแรกก็คือ เราต้องเจียมตัว เรามีแค่ 141 เสียง และเราเจอกับปัญหาที่คั่งค้าง เราไม่ได้บอกว่ารัฐบาลที่แล้วดีไม่ดี แต่มันมีปัญหาคั่งค้างหมักหมมอยู่หลายเรื่อง มีเรื่องกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และอาจารย์ยิ่งศักดิ์ที่ผ่านโลกมามาก จะต้องจินตนาการออกว่า 9 ปี นายกฯที่อยู่รัฐบาล 9 ปี สมมุติว่าเขาแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดแล้ว เราเพิ่งเข้าไป นั่งดูหน้าข้าราชการ ไม่ใช่คนของเราสักคน เราจะเริ่มนับหนึ่งทำงานกับองคาพยพ ที่เป็นองคาพยพของข้าราชการทั้งหมดให้ราบรื่น ให้เขาให้ความร่วมมือกับเราอย่างไร อันนี้เป็นศิลปะขั้นสูงมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *