เที่ยวไหนดีนะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากทัวร์เกาะต่างๆ ชมความงามของทะเล หาดทราย ปลาและปะการัง ขณะที่กำลังดูเว็บท่องเที่ยวต่างๆ MRBADBOY ได้ไปสะดุดสถานที่ Unseen แห่งหนึ่งชื่อว่า ภูเขาทรายเหมืองแกะ ตั้งอยู่ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร และอยากรู้ว่ามันน่าสนใจอย่างไร ที่สำคัญ ไม่ไกลจากตัวเมือง เพียงแค่ 40 กิโลเมตร
MRBADBOY ได้เดินทางไปที่ตลาดเกษตร 1 และซื้อตั๋วโดยสารรถตู้จากบริษัท พันทิพย์ (1970) จำกัด ที่วิ่ง สาย 8337 สุราษฎร์-บ้านนาสาร ค่าโดยสาร 60 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รถตู้วิ่งบนถนนคลองหาและมาจอดตรงทางเข้าวัดนาสาร ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับถนนที่เข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยว Unseen นั้น
MRBADBOY เพิ่งรู้เหมือนกันว่า เงาะโรงเรียนที่อร่อยที่สุด ผลสีแดงเข้มปลายขนสีเขียวและหวานกรอบ ก็คือเงาะโรงเรียนนาสาร อำเภอนาสาร นั่นเอง โชคดีที่ได้ไปเจอเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร ริมคลองฉวาง สองฟากฝั่งถนน
มีใครรู้มั้ยว่า ชื่อเงาะโรงเรียนมาอย่างไร เริ่มมาจากคนจีนจากปีนัง นายเคหว่อง ได้เข้ามาทำเหมืองแร่ดีบุกที่หมู่บ้านเหมืองแกะ ที่อำเภอบ้านนาสาร และได้สร้างบ้านพักบนเนื้อที่ 18 ไร่ ใกล้กับสถานีรถไฟนาสาร แล้วได้นำเมล็ดเงาะจากปีนังมาปลูก หลังจากเลิกล้มกิจการเหมืองแร่ในปี 2479 ได้ขายที่ดินให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงธรรมการ ในสมัยนั้น ซึ่งได้ปรับปรุงสำหรับโรงเรียนนาสาร จึงใช้ชื่อว่า เงาะโรงเรียน
ขณะที่เดินเล่นถ่ายรูปริมคลองฉวาง MRBADBOY ได้เหลือบไปเห็นพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมไตรมงคล องค์สีทองอร่ามและยืนสง่าโดดเด่นบนเชิงเขาวัดนาสาร ที่นี่ยังมีบันไดให้เดินขึ้นไปชมวิวด้านบน
หลังจากนั้น ได้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามและเดินไปตามถนนชลประทานเหนือ เปิด GPS ดูแล้วว่าระยะทางแค่ 3.6 กิโลเมตร ขับรถเพียง 8 นาที MRBADBOY ได้ลองเดินท่ามกลางอากาศร้อนมาก คาดว่าเดินได้ประมาณกิโลกว่าๆ ก็เลี้ยวซ้ายลอดใต้สะพานรถไฟไปยังชุมชน
ยิ่งเดินเหมือนยิ่งลึกเข้าไปในป่า คิดในใจว่าทำใมมันไกลจังวะ พอดีมีรถปิคอัพคันหนึ่งจอดรับและจะไปทางนั้นพอดี ขณะนั่งบนกระบะหลัง รู้สึกว่า ระยะทางมันไกลกว่าที่ GPS บอกและคดเคี้ยวเข้าไปในป่ายางด้วย โชคดีจริงๆ เรา
ทั้งสองคือ คุณลุงสุรัฐ เมืองแมน ข้าราชการบำนาญ อดีตครูโรงเรียนคลองหาเหนือ นักพัฒนาสิ่งแวดล้อมดีเด่นระดับประเทศ รวมถึงประธานขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชนเหมืองแกะแห่งนี้ และคุณป้าวิไล ข้าราชการบำนาญ อดีตบรรณรักษ์โรงเรียนบ้านนาสาร ทั้งสองมี สวนเมืองแมน ที่อยู่ระหว่างทางไปเหมืองแกะ เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรพอเพียง ปลูกผักพื้นบ้าน เรือนผักกรูด สับปะรดสี สตอเบอรี่ เลี้ยงกุ้งเครฟิช เลี้ยงปลาน้ำจืดชนิดต่างๆ เปิดให้เข้าชมฟรีด้วย ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ (081)397-7819
คุณลุงสุรัฐ เล่าให้ฟังว่า “ที่ตรงนี้เป็นร่องรอยการทำเหมืองแร่อายุประมาณ 20 ปีมาแล้ว เป็นการทำแร่ดีบุกในยุคนั้นและมีราคามาก แต่ในปัจจุบันนี้ ราคามันตกต่ำ เขาก็เลยรวบรวมกิจการไป ตรงนี้เป็นกองทรายที่เหลืออยู่ ซึ่งปกติมีก็ยังแบบนี้ไปหลายที่ แต่ปัจจุบันนี้ขายทรายกันหมด ตรงนี้ยังคงเป็นที่ยังเหลืออยู่ กลายเป็นที่อนุรักษ์ของหมู่บ้านเพราะตรงนี้ติดกับเขตของป่าไม้ด้วย เป็นที่สงวนไว้มีความสูงเกือบ 30 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 60 กว่าไร่เป็นร่องรอยที่น่าท่องเที่ยวก็นิยมมา เป็นอันซีนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี”
ด้วยความสงสัย MRBADBOY ได้ถามคุณลุงว่า มันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ยังไง คุณลุงตอบว่า “พอเราขึ้นไปข้างบนสูงสุด จะมองเห็นตลาดนาสาร ตัวเมืองนาสาร ตรงนี้ก็เลยกลายเป็นที่แปลก เป็นกองทรายที่สูงแบบนี้มันหายาก ซึ่งถือว่าติด 1 ใน 10 จุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอันซีนสุราษฎร์ธานีด้วย”
หลังจากนั้น คุณลุงคุณป้า นำทางเราไปข้างบนกองทราย เพื่อให้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ เราก็เดินคดเคี้ยวผ่านล่องของกองทรายที่วางทับถมกันมานาน คุณลุงเล่าให้ฟังต่อว่า “เหมืองแกะที่ชื่ออย่างนี้มันไม่ได้เป็นแกะอย่างที่เข้าใจ มันน่าจะเพี้ยนมาจากเมืองแคะ ในสมัยก่อนเมืองนี้จะมีจีนแคะเข้ามาทำเหมืองที่นี่ เนื่องจากช่วงนั้น ดีบุกราคาถูกลงมาก แต่เดิมเขาใช้แค่นี้มาเคลือบแผ่นเหล็กสังกะสี มุงหลังคา หรือ พวกกระป๋องต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดสนิม แต่ว่าพอยุคหลังมีพลาสติก มีกระเบื้อง ตัวแร่ดีบุกก็มีความจำเป็นน้อย”
ข้างบนกองทรายจะเป็นพื้นทรายแบนราบขนาดใหญ่ เราสามารถเดินไปรอบๆ เพื่อมองดูวิวแบบ 360 องศาได้ แต่มุมเด่นคือ เมืองนาสาร นั่นเอง คุณลุงได้เตรียมที่จะพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้สัมพันธ์กับคำขวัญของอำเภอวัดนาสาร คือ “เงาะโรงเรียนชื่อเฟื่อง รวยเหมืองแร่ แท้น้ำผึ้ง น่าทึ่งปลาเม็งยำ เลิศล้ำถ้าผา เพลินตาน้ำตกสวย งดงามด้วยอุทยาน”
“ตรง ‘รวยเหมืองแร่’ เราก็จะเอาเหมืองแร่แกะของอำเภอบ้านนาสาร ก็คือตัวเหมืองแกะที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ในยุคนั้นเรียกว่าเหมืองแร่สุราษฎร์ธานี จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดภาพถ่าย จัดแสดงให้คนเข้ามาดูได้และจะให้สัมพันธ์กับพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาของสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน สำหรับนักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษาและชาวบ้านทั่วไปที่ต้องการรู้เรื่องนี้”
คุณลุงคุณป้าได้พาไปดูบ่อน้ำที่เกิดจากการขุดหินทรายขึ้นมาและมีน้ำขังจากน้ำฝน ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง
หลังจากนั้น พาไปชมองค์พระยูไลอยุ่กลางเกาะของบ่อน้ำอีกแห่ง และในขณะเดียวกันให้พบกับคุณลุงธวัชชัย สัจมั่น ปัจจุบันอายุ 79 ปีแล้ว เคยทำงานฝ่ายบัญชี ให้กับเหมืองแกะแห่งนี้ ตั้งแต่อายุประมาณ 20-21 ปี
คุณลุงธวัชชัย ย้อนอดีตให้ฟังว่า “เหมืองนี้ เป็นอันดับหนึ่งของสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนค่าเงินมันน้อย ราคาดีที่สุดคือดีบุกราคากิโลละ 100 กว่าบาท ที่เลิกไปเพราะเศรษฐกิจมันเยอะ น้ำมันแพง คนงานเหมืองเป็นร้อย มี 2 แห่ง ทำ 3 กะ ๆ ละ 10 กว่าคน และคนงานรายวันอีก แต่เดิมเป็นของญี่ปุ่นแล้วบริษัทของนายสงวน สิทธิอำนวย มาทำต่อประมาณ 2505-2506 ยังเป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้อยู่ เปลี่ยนจากเหมืองดีบุก มาทำยางและผลไม้
“เกาะบ่อน้ำเป็นของสาธารณะไปแล้ว ความลึก 80 กว่าเมตร ใช้เครื่องจิ๊กเกอร์ดูดทรายออกมากอง แยะหินแยะแร่ออก แต่ก่อนเป็นที่ธรรมดา เอาดินออกมาถมที่นี่ พอเหมืองเลิกกลายเป็นภูเขาเลย เป็นแอ่งน้ำ พระอาจารย์ที่นี่ทำองค์พระเองมา 10 กว่าปีแล้ว เมื่อก่อนพายเรือ เอาจอบเอาอะไรไป ปรับหน้าดินจากที่เป็นภูเขา เรือยังอยู่เลย ที่เป็นพระยูไล คิดว่าอาจจะให้สัมพันธ์กับพระโพธิสัตว์พอดี ที่นาสาร สำหรับชาวจีน”