สัมผัสทุ่งดอกไม้ 7 สี กลิ่นอายวัฒนธรรมอีสาน ที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม

นั่งรถไฟไปจังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช เพื่อจะไปดูสวนไม้ดอกที่ สวนเกษตร 100 ไร่ ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ใกล้ๆ กับสวนสัตว์โคราช และจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ไปทางอำเภอปักธงชัย

เนื่องจากได้นำเสนอสวนเกษตร 100 ไร่ ไปแล้ว ครั้งนี้ MRBADBOY จะพาไปที่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ซึ่งได้มีจุดถ่ายรูปที่กำหนดไว้ถึง 9 จุดเช็คอินด้วยกัน ปีนี้มากับคอนเซ็ปต์ “ดอกไม้บาน อีสานม่วนชื่น”

การเดินทางไปฟาร์มแห่งนี้ ค่อนข้างลำบาก ถ้าไม่ได้ขับรถไปเอง แต่ MRBADBOY เลือกที่เดินทางโดยรถสาธารณะ เริ่มจากขึ้นรถสองแถวที่หน้า Terminal 21 ไปที่สถานีขนส่งเก่า ที่นี่ ใช้รถสองแถวเป็นหลัก มีหลายสีหลายเส้นทาง ในราคา 8 บาทขั้นต่ำ และต่อรถบัส 50 บาทไปลงที่ตลาดปักธงชัย แล้วต่อรถบัสปักธงชัย-วังตะเคียน อีก 20 กว่าบาท ทางเดียวกันกับที่ไปเขื่อนลำพระเพลิง แต่ต้องบอกคนขับว่า ไปจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม เขาจะเลี้ยวไปส่งให้

คนที่ขับรถมา ไม่ต้องกลัว เพราะว่า จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มีที่จอดรถกว้างใหญ่มากอยู่ตรงข้ามทางเข้า MRBADBOY ได้จ่าย 180 บาทสำหรับบัตรเข้าชมวันธรรมดา แต่ถ้าวันเสาร์อาทิตย์จะเป็น 220 บาท

ขอถ่ายรูปด้านหน้าทางเข้าและช่องจำหน่ายตั๋วก่อน เพราะดูมีสีสันดี เนื่องจากตกแต่งไปด้วยแถบสีรุ้งและควายสีขาวกับการเพ้นท์สีต่างๆ รวมทั้งจุดถ่ายรูปลูกฟักทองใหญ่ วางอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ขนาดย่อม

หลังจากนั้น MRBADBOY ได้เข้าไปข้างในและหาอาหารกลางวันรองท้องก่อน อาหารและของหวานน่ากินมาก และเริ่มทัวร์ฟาร์มโดยรถรับส่งสีลูกกวาดและเพ้นท์รูปผลไม้ เช่น เมลอนและดอกไม้ น่ารักเชียว เกือบทิ้งบัตรนั่งรถฟรีไปแล้ว เพราะว่ามันติดมากับใบเสร็จ และพนักงานก็ไม่ได้บอกด้วย

มาถึงจุดแรก ที่มีชื่อว่า “Mirror Memory” หรือ “กระจกส่องใจ” จะเจอวงเวียนดอกไม้ ที่ประกอบไปด้วยลูกกลมๆ กับลวดลายผ้าขาวม้า พร้อมกับข้อความว่า “ม้าป่งเขา เสาออกดอก” เวทีขนาดย่อม และรถบัสหมอลำที่เปิดเพลงหมอลำทิ้งไว้

ลองขึ้นไปดูสิ ว่ามีอะไรบนรถคันนี้บ้าง รถบัสหมอลำคันนี้ มีนิทรรศการหมอลำ ชื่อว่า “ม้าป่งเขา เสาออกดอก” (Mor Lam in the Cold War) หรือชื่อเต็มๆ ว่า “ม้าป่งเขา เสาออกดอก ผู้หญิงออกจากบ้าน มานท้องก่องน้ำตา” เป็นกลอนลำที่กล่าวถึงอีสานในยุคสงครามเย็น ประมาณ พ.ศ. 2490-2534 หรือเรียกอีกอย่างว่า อีสานยุคพัฒนา “ม้าป่งเขา” อุปมาถึง มอเตอร์ไซค์ ตัวแทนความเจริญในทางคมนาคม “เสาออกดอก” อุปมาถึง เสาไฟฟ้า ตัวแทนความเจริญทางด้านสาธารณูปโภค “ผู้หญิงออกจากบ้าน มานท้องก่องน้ำตา” ตัวแทนของคนอีสานเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรม

หลังจากนั้น ได้เดินขึ้นเนินไปหาลูกฟักทอง ที่ประดิษฐ์ขึ้นจากโครงไม้ ตาข่าย ไม้เลื้อย และตกแต่งด้วยแผ่นกระจกมากมายโดยรอบ ตรงกับชื่อ “กระจกส่องใจ” ซึ่งต้องการให้เรามองตัวเองผ่านกระจกในมิติต่างๆ เหมือนกับการทบทวนความทรงจำแห่งอดีต เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคต

แล้วเดินต่อไปยัง ทุ่งดอกไม้เจ็ดสี กับ 2 กังหันลม ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะได้ถูกปลูกวางตามสีของดอกไม้แต่ละชนิด ช่างสวยงามจริงๆ ชวนให้นึกถึง ครั้งหนึ่งได้ปั่นจักรยานไปชมทุ่งดอกไม้เจ็ดสีและทุ่งลาเวนเดอร์ที่ทุ่งชิกิไซโนะโอกะ เมืองบิเอะ และที่ฟาร์มโทมิตะ ฟูราโนะ ฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น

หนำใจแล้ว ก็เดินไปหาลานฟักทอง หรือที่เรียกว่า “กองเงินกองทอง” เป็นจุดเช็คอินที่ 4 ซึ่ง MRBADBOY อาจจะไม่ได้เดินตามแผนที่หรือจุดเช็คอินเท่าไหร่นะ กองฟักทองเป็นของจริงนะ จะบอกให้ เพราะว่าเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของฟาร์มแห่งนี้ ใกล้ๆ กัน ก็จะมีชิงช้า ที่เกิดจากเอาไม้ 5 ต้นมาไขว้กันออกมาเป็นทรงคล้ายๆ กระโจม

ถัดไป ก็จะเป็นทุ่งดอกดาวกระจายสีส้ม กระจายแผ่ไพศาล สวยงามยิ่งนัก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายได้ทุกมุม

ณ จุดนี้ ฝั่งตรงข้าม มีชิ้นงานศิลปะที่ทำขึ้นจากไม้ไผ่สานกัน อยู่ด้วย คือ “Ligature” ของ ศาวินี บูรณะศิลปินและทีมนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 2561

จากจุดนี้ ใครจะนั่งรถก็ได้เพราะมีรับส่งนักท่องเที่ยวตลอดเวลา แต่ MRBADBOY เห็นว่าไม่ไกลนัก และอยากจะเดินชมและเก็บภาพไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางที่จะไป “หมู่บ้านอีสาน” ได้พบกับจุดเช็คอินที่ 5 ชื่อว่า “เย็นใจลอยละล่อง” กับเรือหางยาวที่ตกแต่งไปด้วยดอกไม้ ลอยอยู่ในบึงน้ำ

ที่บึงน้ำ ยังมีสะพานไม้ที่ทอดยาวไปยัง “วิหารสุขใจ” (Santuary) ซึ่งเป็นจุดเช็คอินที่ 7

ฝั่งตรงข้ามกับ “วิหารสุขใจ” เป็นนาข้าวสีเขียวที่มี กระจกส่องใจ ทรงสามเหลี่ยมวางอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้คนได้มาสะท้อนตัวเอง หรือส่องใจตัวเอง

เดินไปเรื่อยๆ บนพื้นดิน เหมือนอยู่ในชนบท สู่ “หมู่บ้านอีสาน” ที่มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของชาวอีสาน พวกบ้านทรงเก่า ช่างพื้นบ้านฝีมือดี และวัสดุ อุปกรณ์ดำรงชีวิตของชาวอีสานดั้งเดิม เช่น เรือนนางสาหร่าย โรงสีข้าว ศาลปู่ตา หอแจก หอไตรกลางน้ำ และมีการแสดงหมอลำด้วย

ที่นี่ มีขนมให้ซื้อชิมดูด้วย เช่น ข้าวเม่า ข้าวปาด ข้าวทิพย์ และข้าวต้มมัด ใกล้ๆ กัน เป็นหอไตรกลางน้ำ

นั่งพักสักหน่อย อากาศร้อนๆ จิบกาแฟเย็นๆ ที่ร้าน ฮวย และชิมขนมเบื้องและขนมบ้าบิ่น

ก่อนมาขึ้นรถรับส่งที่หน้าตลาดจิม แวะถ่ายรูปจุดเช็คอินที่ 3 ทุ่งดอกไม้ 360 องศา มุมไหนก็สวย มีที่นั่งและทางไม้ที่ยื่นออกไปท่ามกลางทุ่งดอกไม้

ณ จุดนี้ ก็มีงานศิลป์ของ มิตร ใจอินทร์ เป็นผ้าที่เพ้นท์หลากหลายสีหลายผืน จัดวางท่ามกลางทุ่งดอกไม้

นั่งมองดูต้นสนสูงตระหง่านที่ปลูกเรียงกันเป็นทิวแถว ทำให้ MRBADBOY นึกถึงตอนที่เกาะมินามิ ประเทศเกาหลีใต้

ตอนขากลับ ไม่มีรถกลับ เป็นเหตุสังเกตได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยว รถบัสวิ่งน้อยลง ทำอย่างไรดีละ ก็เลยตัดสินใจเดินออกมาทางถนนใหญ่ก่อน กะว่าจะโบกรถเข้าเมือง พอดีชาวบ้านแถวนั้นกำลังจะเข้าเมืองพอดีและมาส่งที่ตลาดปักธงชัย โชคดีที่มาทันคันสุดท้ายพอดี ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม Jim Thompson Farm

Tel: 044-373-116 and 081-928-5442

https://www.facebook.com/JimThompsonFarmTour/

https://jimthompsonfarm.com/isaan-village-th/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *