ปั่นจักรยานชมทุ่งดอกไม้สีรุ้ง และวิวทิวทัศน์พาโนราม่า ที่เมืองบิเอะ

หลังจากเช็คเอาท์เกสท์เฮ้าส์ Minshuku Mutsukari ที่ฟูราโน่ เจ้าของได้บริการขับรถส่งเราไปยังสถานีฟูราโน่ อาริกาโตะ! เรากล่าวขอบคุณ ก่อนขึ้นรถไฟสาย Furano Line เพื่อจะไปดูบ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond ที่เมืองบิเอะ (Biei) แต่ MRBADBOY และเพื่อนคนหนึ่งได้ขอแยกลงที่สถานีบิบาอุชิ (Bibaushi) เพื่อที่จะไปปั่นจักรยานเที่ยวมากกว่า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่่วโมงเท่านั้น

เมื่อเราออกจากรถไฟแล้ว เราก็ข้ามทางรถไฟไปอีกฝั่งหนึ่ง และเดินไปตามถนนที่ปูไปด้วยหินกรวดพร้อมกับลากกระเป๋าไปด้วย แล้วได้เห็นป้ายสีฟ้า Bibaushi Cycling Map: Walk heavy Bike easy พร้อมแผนที่และหมายเลขของสถานที่ต่างๆ รอบๆ บริเวณนั้น และนั่นหมายถึงว่า เรามาถูกทางแล้ว

เราได้เดินมาถึงถนนซีเมนต์และเจอสี่แยกแล้วเลี้ยวขวา จะเจอบ้านไม้สองชั้นสีออกโทนขาวๆ เทาๆ ตั้งโดดเด่นอยู่หลังเดียวท่ามกลางความเขียวขจีของต้นไม้มากมาย ชื่อร้านเช่าจักรยานเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ค้นหาดูทีหลังว่าชื่อ Gaido no Yamagoya ร้านนี้มีล็อกเกอร์เก็บของและให้บริการรับฝากกระเป๋าเดินทางด้วย

ที่นี่มีจักรยานให้เลือกเช่า 4 แบบส่วนใหญ่เป็นไฟฟ้าทั้งหมด MRBADBOY และเพื่อนได้เลือกแบบ A Type: Standard Electric Bike ที่มีตะกร้าข้างหน้าไว้ใส่แบ็คแพ็ค สำหรับครึ่งวันในราคา 2,200 เยน พร้อมทั้งแผนที่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ แต่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยอธิบายจุดต่างๆ พร้อมกับทำเครื่องหมายมาร์คให้ด้วย รวมถึงแนะนำวิธีเปลี่ยนเกียร์การเปิด-ปิดมอเตอร์ไฟฟ้า และวิธีล็อคจักรยาน

เส้นทางปั่นเรียกว่า Panorama Road ที่เราจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งอันกว้างไกลแบบพาโนรามา แล้วเราก็เริ่มลุยกันเลย

จากร้านเช่าจักรยาน เราปั่นมาสักพักก็มาถึงโรงเรียนประถมศึกษา Bibaushi Elementary School ซึ่งยังเปิดใช้บริการอยู่ตั้งแต่การก่อสร้างในปี 1910 ตัวทาวเวอร์ทีมีหลังคาทรงสามเหลี่ยมได้ถูกสร้างขึ้น หลังจากโรงเรียนนี้ได้ทำการบูรณะในปี 1984 อาคารดูสวยงามกับหลังคาสีแดง บุคคลภายนอกไม่อนุญาตให้เข้าไป ดังนั้นเราได้ถ่ายรูปจากด้านนอก

เราปั่นต่อไปตามเนินขึ้นๆ ลงๆ จนกระทั่งเห็นป้ายสีเหลืองตัวอักษรญี่ปุ่นพร้อมทั้งรูปตัวอัลปากา (alpaca) เลี้ยวซ้ายเข้าไปและไปหาที่จอดจักรยาน ที่นี่คือ ทุ่งชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no Oka) ฟาร์มดอกไม้ที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ และมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนจีนที่มากับรถนำเที่ยวและบางกลุ่มวัยรุ่นปั่นจักรยานมาแหมือนกัน ฟาร์มนี้หมายถึงเนินเขาที่มีสีสันสี่ฤดู

MRBADBOY ได้เดินลอดผ่านอาคารสีโทนเนื้อๆ ซึ่งเป็นที่จำหน่ายสินค้าเกษตรกรรมและของที่ระลึก และได้เห็นมาสคอตฟาร์มที่ยืนคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ฟาร์มเป็นลักษณะ rolling hills ที่เป็นเนินเล็กๆ กับ slope ที่ใช้ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลเช่น ลาเวนเดอร์, ทิวลิป, ซัลเวีย, รักเร่, ทานตะวัน และออกแบบให้เป็นทุ่งสายรุ้งประทับใจนักท่องเที่ยวยิ่งนัก

MRBADBOY ได้เลือกนั่งรถแทร็กเตอร์ชมฟาร์มดอกไม้พร้อมทั้งชมอัลปากา ในราคาเหมา 900 เยน ซึ่งได้จอดให้ชมและถ่ายรูปตามจุดหลักๆ ก่อนที่เดินถ่ายรูปโดยตัวเองตามมุมต่างๆ

หลังจากนั้น MRBADBOY ได้เข้าไปชมอัลปากากันต่อ ซึ่งแต่ละตัวจะมีชื่อของมัน เช่น Chris, Tom, Butch, Momiji, Cleo, Cocoa, Dahlia, และ Marie นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานถ่ายรูปกับตัวอัลปากา

MRBADBOY ขอเพิ่มพลังงานก่อนละกัน ด้วยของกินเล่นแบบเบาๆ คือโคโรเกะ 1 ชิ้นและน้ำส้ม 1 กระป๋อง แล้วนั่งชมวิวเพลินๆ สักพัก

สถานที่ต่อไปคือแกลเลอรีทาคุชินคัง (Takushinkan Gallery) ซึ่งแสดงผลงานภาพถ่ายของช่างภาพชินโซะ มาเอะดะ (Shinzo Maeda) จำนวน 80 ภาพในฤดูกาลต่างๆ ของเมืองบิเอะ เข้าชมได้ฟรี ห้ามถ่ายรูป แต่มีภาพถ่ายหรือโปสการ์ดสวยๆ ขาย

หลังจากนั้นก็ไปกันต่อ ระหว่างทางก็จะมีวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่าและได้แวะถ่ายรูปกันบ้างถึงเวลาที่เราจะนั่งรถไฟไปสบทบกับเพื่อนที่เมืองบิเอะตามที่ได้นัดหมายกันไว้ แต่ปรากฏว่า ขณะที่ MRBADBOY และเพื่อนอีกคนกำลังจะเดินมาถึงสถานีบิบาอุชิ ก็ได้ยินเสียงเพื่อนๆ ตะโกนเรียกอยู่บนรถไฟที่กำลังจะออกจากสถานีบิบาอุชิมุ่งหน้าไปยังเมืองฟูราโน่ เราได้รับเมสเสจจากเพื่อนว่าให้ไปเจอที่สถานีฟูราโน่แทน

ที่สถานีฟูราโน่ เราได้นั่งรถไฟ Limited Furano Lavender Express ไปยังสถานีซับโปโรถึงตอนค่ำ และเดินหาที่พักของเรา เป็นอพาร์ทเม้นท์แบบ 2 ห้องนอน หนึ่งห้องครัวและหนึ่งห้องนั่งเล่น ที่อยู่บนอาคารสูง 10 กว่าชั้น แต่ไม่มีแอร์คอนดิชั่นเนอร์ เนื่องจากอากาศที่ฮอกไกโดค่อนข้างเย็น ในราคา 4,297 บาทต่อคนสำหรับ 3 คืน ดูแล้วน่าจะเรียกว่าคอนโดมิเนียมนะ หรูดี

อาหารเย็นของเราวันแรกที่ซัปโปโรคือซูชิ ก่อนที่เราออกไปย่ำราตรีบนถนนช้อปปิ้งทานูกิ โคจิ (Tanuki Koji)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *