โอตารุ เมืองเก่ากับคลองมหาเสน่ห์

ก่อนบ๊ายบายฮาโกดาเตะ (Hakodate) เพื่อจะเดินทางต่อไปยังโอตารุ (Otaru) MRBADBOY และเพื่อนๆ อยากลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ กันอีกครั้ง ที่ตลาดเช้า Hakodate Morning Market Square และ MRBADBOY ได้จัดเต็มกับเซ็ทข้าวหน้าทะเล Hakodate Tairyo Don ที่ประกอบไปด้วยไข่เม่น ไข่ปลาแซลมอน ปู กุ้ง หอยเชลล์ และปลาหมึก แบบสดๆ หวานๆ ในราคา 2,430 เยน

หลังจากนั้น เรากลับมาที่สถานีรถไฟฮาโกดาเตะและได้ทำการรีเสริฟที่นั่งรถไฟ Limited Express Super Hakuto ผ่านบัตร Hokkaido Rail Pass ของเรา แต่ขบวนนี้ต่างจากขบวนก่อนหน้านี้ คือ มีช่องใส่ตั๋วรถไฟอยู่ด้านหลังที่นั่งของคนข้างหน้า เผื่อผู้โดยสารหลับไป หรือไปห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจตั๋วได้ และมีคำเตือนว่า อย่าลืมนำกลับไปด้วย

เราใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเรา คือสถานีโอตารุ แล้วเดินตามหาที่พัก Otaru Tap Room: Craft Beer & Hostel ที่จองผ่าน www.agoda.com เดินตามถนนเส้นหลักที่มุ่งหน้าไป Otaru Canal จะผ่านทางรถไฟสายเก่า พร้อมกับป้าย Welcome to Otaru! ที่มีทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวชาวจีนถ่ายรูปกันมากมาย

เดินมาถึงสี่แยก ก็เลี้ยวซ้ายตรงที่มีร้านคาราโอเกะ Thriller Karaoke Music House Otaru ที่ป้ายแกะสลักสัตว์ในเทพนิยายการ์กอยล์ (Gargoyle) ไม่นานก็มาถึงที่พักของเรา ด้านหน้าจะเป็นร้านเบียร์ ที่น่าสนใจ เราได้คูปองฟรีคนละ 2 ใบสำหรับเบียรฟรี 2 แก้ว สำหรับ 2 คืน ว้าว สุดยอดเลย

ห้องที่จองไว้จะเป็นแบบ bed dormitory ประกอบไปด้วยเตียงสองชั้นสองเตียง สำหรับ สี่คนพอดี ห้องน้ำแยก มีห้องครัวให้ด้วย คืนละ 900 กว่าบาทต่อคน หลังจากนั้น เราก็ออกไปหาอาหารมื้อแรกของเราที่นี่ เป็นร้านอาหารที่เราเดินผ่านมาและเล็งเอาไว้แล้ว MRBADBOY ได้สั่งสเต็กเนื้อ 3,800 เยน และหอยนางรมสดๆ 3 ตัว 950 เยน พร้อมด้วยเหล้า Jim Beam หนึ่งแก้ว แปลกดี ญี่ปุ่นชอบใส่เลมอนในวิสกี้

เนื่องจากโอตารุ เป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนอาคารเก่าแก่มากมายซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ด้วย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปด้วย ที่น่าสนใจคือ มีป้ายชื่อและประวัติความเป็นมาของอาคารนั้นๆ มีหลายภาษาด้วย เช่น อังกฤษ รัสเซีย จีน เกาหลี และแน่นอน ญี่ปุ่น อย่างเช่น Hayakawa Store ตัวแทนจำหน่ายชา กระดาษ และอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ ที่โอตารุ ซึ่ง ได้ถูกสร้างด้วยหินและไม้ในปี 1904 อาคารนี้ได้ถูกไฟไหม้ในปี 1994และได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่กับระบบการป้องกันไฟไหม้ด้วย โดยการเคลือบพื้นผิวของประตูและกำแพงปีกด้วยดิน, สำนักงานใหญ่ของบริษัทการค้า Arata Trading Company  สร้างด้วยไม้ในปี 1935ปัจจุบันนี้ใช้เป็นพื้นที่ค้าปลีก, และโกดังสินค้า Takahashi Warehouse สร้างด้วยหินและไม้ในปี 1923ใช้เป็นที่เก็บเมล็ดถั่วเหลือง แต่ปัจจุบันนี้เป็นพื้นที่ค้าปลีก

วันแรกของเราที่นี่ ไม่ได้ไปไหนมาก เนื่องจากมาถึงก็บ่ายแล้ว ก็เลยลงความเห็นว่าไปเดินเที่ยว ถ่ายรูปชิลๆ ที่คลองโอตารุ เพื่อที่จะได้เก็บภาพบรรยากาศทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น คลองนี้จะมีสะพานเชื่อมถนนอีกฝั่งและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งคนญี่ปุ่นและจีน เกาหลี และไทย หรือทางเดินเลียบคลองจากสะพานหนึ่งไปอีกสะพานหนึ่ง จะมีโชว์ของกลุ่มนักดนตรี และคนวาดภาพพอร์ตเทรตการ์ตูน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จุดที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นี่ คือ การล่องเรือไปมาระหว่างสะพานหนึ่งไปยังอีกสะพานหนึ่ง ชมวิวสองข้างทางบนเรือ ฝั่งหนึ่งเป็นผู้คนกำลังเดินไปมาและถ่ายรูปกัน และอีกฝั่งเป็นด้านหลังของโกดังสินค้าและร้านกินดื่มส่วนใหญ่ เช่น Otaru Times Garten และ Otaru Beer

หลังจากที่ MRBADBOY เก็บภาพช่วงกลางวันอย่างพอใจแล้ว ก็เดินข้ามสะพานไปทางท่าเทียบเรือสำราญและท่าเทียบเรือต่างๆ ของเก็บภาพเรือต่างๆ ที่จอดตามท่าเทียบเรือ ก่อนที่เดินข้ามมาทางด้านคาแนลพลาซ่า

เก็บภาพคลองโอตารุเป็นที่เรียบร้อย ก็เดินกลับที่พัก แต่ไม่ลืมที่นำคูปองไปแลกเบียร์คราฟเย็นๆ ฟรีๆ ที่ร้านข้างทางเข้าที่พัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *