“ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” เป็นโครงการที่ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการร่วมโปรโมทเมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนได้มาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น และผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานได้เก็บสถิติเที่ยวเมืองรองโดยการปั่นให้ได้มากที่สุด ถึง 55 จังหวัด โดยเริ่มจากปี 2019 กับ 12 จังหวัดเมืองรอง จะมีรางวัลให้ 100,000 บาท โดยจะทำการสุ่มจับฉลากในจังหวัดสุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2563
นอกจากนี้ ประสบการณ์ความประทับใจในการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแบบยั่งยืน ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ชมธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และอาหารท้องถิ่น มากกว่านี้ เงินรายได้จากค่าสมัครบางส่วนมอบให้กับชุมชน
MRBADBOY เพิ่่งได้มีโอกาสมาร่วมทำกิจกรรม “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” ในสนามที่ 7 ที่จังหวัดลพบุรี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Green Season อีกด้วย ระยะทางปั่นสำหรับสนามที่ 7 นี้คือ 42 กิโลเมตร
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้า เพื่อไปรวมพลตอน 6 โมงเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562 ที่ศูนย์อำนวยการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายในศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ (ศฮว.) ที่เป็นจุด Start/Finish ของกิจกรรมนี้ … ไม่สิ MRBADBOYเหมือนเพิ่งจะเริ่มนอนเอง ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงระเบิดของหม้อแปลงขนาดใหญ่ของโรงแรมที่เราพักพร้อมแสงไฟวาบหนึ่งผ่านหน้าต่างห้อง จะข่มตานอนก็นอนไม่หลับเนื่องจากร้อน ถึงแม้เปิดหน้าต่างก็ไม่ช่วยอะไรเพราะว่าอากาศนิ่งไม่มีลมพัดเข้ามาเลย ก็ได้แต่นอนรอเวลาแทน
จุดรวมพลของที่ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ หรือศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พัก ที่นี่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งสำหรับประชาชนชาวลพบุรีที่มาออกกำลังกายยามเช้า เช่นวิ่งและปั่นจักรยาน บริเวณโดยรอบของเส้นทางมีความเขียวชอุ่มหญ้าและต้นไม้ มีบึงน้ำขนาดใหญ่ และมีวิวที่สวยงามของภูเขากับหมอกยามเช้า ช่างสวยงามเสียนี่กระไร
ใกล้ๆกับจุดปล่อยตัว MRBADBOY ได้เหลือบไปเห็นจุดๆหนึ่งชื่อว่า ณ นา กม 0 ที่นักปั่นทยอยกันเข้าไปเดินชมและถ่ายรูปกัน ที่นี่เป็นที่ที่สำหรับ remind ถึงพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการต่างๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปรัชญาพอเพียง ทางเดินเป็นสะพานไม้ จะผ่านซุ้มไม้ไผ่ต่างๆที่มีชื่อตามปรัชญาพอเพียง อย่างซุ้มแรกชื่อ พอเพียง ภายในซุ้มก็จะประกอบไปด้วย คำพ่อสอน “…ความพอเพียงนี้ก็แปลว่าความพอประมาณ และความมีเหตุผล…” หรือซุ้มแบ่งปันสังคม ประกอบไปด้วยโครงการปลูกหญ้าแฝก ความพอดี 5 ประการ เมื่อเราเดินตรงไปถึงสามแยก ตรงกลางเป็นมุมถ่ายรูปกับพร็อพรูปหัวใจ แยกไปทางขวาก็จะเป็นคำว่า พอเพียง อยู่ตรงกลางทางเดินไม้ล้อมรอบ
กิจกรรม “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” ไม่ได้จำกัดประเภทของจักรยาน มีทั้งเสือหมอบ เสือภูเขา ทัวร์ริ่ง จักรยานแม่บ้าน และจักรยานล้อโตโบราณ มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาร่วมปั่นงานนี้ด้วย และแล้วสัญญาณการปล่อยตัวก็เริ่มขึ้น นักปั่นทุกคนทยอยออกจากศูนย์อำนวยสร้างอาวุธและปั่นไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 กม ก็มาถึงจุดแวะพักที่ 1 ที่อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นทะเลน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ๆ ปัจจุบันอ่างซับเหล็กเป็นเขื่อนดินกั้นเปิดให้เข้าชมทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติอีกด้วย
หลังจากที่ได้ชื่นชมและแชะภาพกันกับความสวยงามของทะเลน้ำจืดกับ Backdrop เป็นทิวเขาแล้ว นักปั่นก็ถูกเรียกให้เริ่มตั้งขบวนเพื่อจะไปที่จุดแวะพักที่ 2 ต่อไปคือ วัดเวฬุวัน ที่อยู่ไม่ไกลจากอ่างเก็บน้ำ เราได้ปั่นผ่านทุ่งข้าวโพดสองข้างทาง ขณะที่ข้างหน้ามองเห็นเขาโด่ สวยงาม จนนักปั่นบางคนอดใจไม่ไหวที่จะหยุดถ่ายภาพ ตรงบริเวณลานสนามหญ้ากว้างๆของสนามโดดร่มท่ามะเดื่อ มองไกลๆบนเขาจะเห็นวัดเวฬุวัน ซึ่งแต่เดิมเป็นสำนักสงฆ์ชื่อ วัดเขาจีนแล เพราะตั้งอยู่บนหุบเขาจีนแล เป็นสถานที่ร่มรื่น มีภูเขาล้อมรอบสี่ด้าน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์ คือ พระพุทธรูปใหญ่ที่หลวงพ่อลีสร้าง และพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงสร้างประดิษฐานอยู่บนยอดเขา มีโบสถ์รูปทรงแปลก จั่วเป็นซุ้มกุทุแบบอินเดีย รวมถึงหอสมุดและสำนักชี
ได้อิ่มเอมกับธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ก็ปั่นต่อ ผ่านและเข้าไปในเขตทหารด้วยเช่น ค่ายเอราวัณ และก็วนกลับมาที่จุด Finish ที่ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ก่อนเดินทางกลับ แวะทานอาหารเที่ยงที่ร้าน “อะเบ้าท์คอฟฟี่การ์เด้น @ลพบุรี” หรือ About Coffee Garden ที่ตั้งอยู่ตรงแยกไฟแดง ซ.เฉลิมพระเกียรติ ต. ท่าศาลา อ. เมืองลพบุรี เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยเหล่าแมกไม้ มีอาหารและเครื่องดื่มมากมายให้เลือกลิ้มรสกัน MRBADBOY ได้เลือกเมนู สลัดกุ้งทอดประมาณ 4 ตัวใหญ่ๆกรอบมาก กินผักสลัดสดๆ มะเขือเทศ หอมใหญ่และแอปเปิ้ล พร้อมน้ำ dressing ยิ่งอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก ขอบอก
