พระนครศรีอยุธยา หมุดหมายใหม่ ร้านอาหารติดดาว “มิชลินไกด์”

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองแห่งประวัติศาสตร์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย และ “เมืองมรดกโลก” โดยองค์การยูเนสโก ในปี 2534 ได้เป็นหมุดหมายใหม่ในการคัดสรรร้านอาหารติดดาว ในคู่มือ “มิชลินไกด์ ประเทศไทย” (“Michelin Guide Thailand”) ฉบับที่ 5 ซึ่งมีกำหนดตีพิมพ์เผยแพร่ปลายปีนี้

ภายใต้ชื่อ “มิชลินไกด์กรุงเทพมหานครพระนครศรีอยธุยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา 2565” (“The Michelin Guide Bangkok, Phra Nakhon Si Ayutthaya, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2022”) จะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นและลักษณะเฉพาะตัวของอยุธยาในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ที่เกิดจากการหลอมรวมกลิ่นอายแห่งอดีตเข้ากับความทันสมัยของโลกยุคใหม่อย่างลงตัว หรือกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบสำหรับรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ทั่วโลก เปิดเผยว่า “อยุธยาเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามด้านวัฒนธรรมอาหารไทย เต็มไปด้วยมนต์ขลังและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เคยเป็นศูนย์กลางทางการทูตและการค้าระดับโลก ทำให้ได้รับอิทธิพลจากหลายชาติ อาทิ โปรตุเกส ญี่ปุ่น อินเดีย และ เปอร์เซีย ซึ่งมีบทบาทต่ออาหารไทยในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ 3 สาย ยังส่งผลให้อยุธยาเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งปลาน้ำจืด กุ้งแม่น้ำ ตลอดจนผักและผลไม้สดมากมาย

“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย จะได้มีโอกาสแนะนำอยุธยาในฐานะเมืองที่บรรยากาศธุรกิจร้านอาหารมีความโดดเด่นเฉพาะตัวบนพื้นฐานของการผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างน่าประทับใจ โดยมีทั้งร้านอาหารเก่าแก่สุดคลาสสิก, ร้านอาหารใหม่ ๆ ในอาคารเก่าที่ผ่านการดัดแปลงปรับปรุงอย่างเก๋ไก๋ หรือในอาคารใหม่ที่ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ทันสมัย, ร้านกาแฟและคาเฟ่ที่มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายภาพหลากหลายมุม ไปจนถึงร้านเด็ดในตลาดบกและตลาดน้ำพื้นบ้าน ทางเลือกด้านอาหารที่หลากหลายเหล่านี้ ประกอบกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน คือเสน่ห์ที่แตกต่าง ซึ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกลับมาเยือนอยุธยาอยู่เสมอ” มร.ปูลเล็นเนค กล่าว

ในอดีต เมื่อครั้งที่อยุธยายังเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งเวลานั้นเป็นที่รู้จักในนาม “สยาม” ชาวต่างชาติหลากหลายเชื้อชาติได้เข้ามาตั้งรกรากในอยุธยาและมีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการอาหารไทยซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้กะทิและเครื่องเทศในแกง (อิทธิพลจากอินเดียและเปอร์เซีย) ต่อยอดพัฒนาเป็นแกงไทยจานเด่น อาทิ แกงมัสมั่น, การใช้ไข่และไข่แดงในการทำขนมไทย (อิทธิพลจากโปรตุเกส) อาทิ ทองหยิบ และทองหยอด

ในวันนี้ อยุธยาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน และยังสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางรถไฟและทางเรือ นอกจากนี้ อยุธยายังมีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจให้เลือกสัมผัส อาทิ การไหว้พระตามวัดสำคัญ ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล, การเที่ยวชมหมู่บ้านชาวต่างชาติ อาทิ หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านโปรตุเกส และหมู่บ้านฮอลันดา รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฉพาะทาง เช่น พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธุ์ และพิพิธภัณฑ์เรือไทย, การนั่งเรือชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตริมสองฝั่งแม่น้ำ ฯลฯ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า “นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว การได้ลิ้มลองอาหารอร่อยหลากชนิดจากตลาดพื้นบ้าน หรือร้านอาหารในท้องถิ่น ยังเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือนอยุธยา ผมเชื่อว่าชาวไทยและทั่วโลกที่ได้อ่านคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดนี้ จะเกิดแรงบันดาลใจในการเดินทางมาค้นพบเสน่ห์และมนต์ขลังของอยุธยาที่ไม่เคยเสื่อมคลายเหล่านี้ด้วยตนเองอย่างแน่นอน”

ข้อมูลเพิ่มเติม https://guide.michelin.com/th/th

ติดตามข่าวสาได้ที่ www.facebook.com/MichelinGuideThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *