เป็นเรื่องปกติของทุกปีที่ อากาศ ในช่วงซัมเมอร์ โดยเฉพาะเดือนเมษายน ทั้งร้อนและอบอ้าว เวลาเดินใส่แมส หรือหน้ากากอนามัย ท่ามกลางความร้อนของแสงแดด ทำให้หายใจลำบากมากขึ้น เหมือนสูดความร้อนจากด้านนอกและอบอยู่ด้านในผ้า แทบจะเป็นลม ดังนั้น คนส่วนใหญ่ก็จะพยายามหาอะไรเย็นๆ มาช่วยคลายความร้อน
MRBADBOY ได้ยินว่า มีร้านขนมหวานจากไต้หวันเปิดใหม่ อยู่ที่เยาวราช จึงไม่รอช้า จับรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานีวัดมังกร และเดินมาทางออก 1 ไปถนนแปลงนาม ที่ขึ้นชื่อว่ามีอาหารและขนมหวานสุดอร่อยบนถนนเส้นนี้ เดินไปประมาณกึ่งกลางของถนนก่อนที่จะทะลุไปยังถนนเยาวราช สายหลัก ก็จะพบกับร้านเต้าหู้เย็นถังยี่ (Thangyi Tofu) เป้าหมายของเรา
MRBADBOY ได้พบกับเจ้าของร้าน ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน คือ คุณแดง ณญาดา อมตวณิชย์ เจ้าของร้านอาหารไทยชื่อดัง ครัวอัปสร นั่นเอง แต่ก็ยังอดสงสัยว่ามาเปิดร้านทำใม
คุณแดง เล่าให้ฟังว่า “จริงๆ แล้ว ซื้อแฟรนไชส์ไว้นานมากแล้ว พอดีติดโควิด ถ้าเราเปิดร้าน อาจจะเสี่ยงต่อการขาดทุน ปิดรอมาเป็นปี จ่ายค่าเช่าที่นี่มาเป็นปี จึงจะตัดสินใจเปิด หลังจากเริ่มมีคนมาเดินบ้างแล้ว
“แต่ก่อน เราต้องไปกินไกลถึงดอนเมือง เขาเป็นแฟรนไชส์จากไต้หวัน ก็คิดว่า เราชอบแบบนี้ วัตถุดิบมาจากไต้หวัน เฉพาะในส่วนที่เมืองไทยไม่มี ก็คือผงเต้าหู้ เราก็เลยซื้อแฟรนไชส์ที่เดียวกับดอนเมือง ชื่อ ถังยี่ มาจากชื่อเจ้าของคือ มิสเตอร์ถังและภรรยาของเขาชื่อ ยี่
“ก่อนหน้านี้ เคยคิดถึงการเอาธัญพืชทั้งหมดมาปั่นรวมกันและกิน พอลองทำ มันจะมีกลิ่นเขียวๆ ของถั่วที่ทำให้ไม่ค่อยอยากกิน แต่เต้าหู้เย็นที่นี่ไม่มีกลิ่นแบบนั้น มันนุ่มนวล กินแล้วเหมือนละลายในปาก เพื่อสุขภาพจริงๆ ไม่หวาน กินแล้วอร่อย สุขภาพดี ราคาไม่แพง”
ในวันนั้น MRBADBOY โชคดีมากที่มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณธนัท ภิญโญธนกร ผู้ขยายแฟรนไชส์เต้าหู้เย็นถังยี่จากไต้หวันสู่เมืองไทย ก่อนหน้านี้ เขาเป็นล่ามเกี่ยวกับจัดหางานและได้รู้จักกับคนไต้หวันคนหนึ่งเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งได้แนะนำเขาให้เป็นเรียนรู้ธุรกิจเต้าหู้เย็นถังยี่ ที่แหล่งกำเนิดในประเทศไต้หวัน และมาเปิดร้านเต้าหู้เย็นถังยี่ร้านแรกที่สนามดอนเมือง เป็นเวลา 7 ปีแล้ว
คุณธนัท พูดว่า “ผมสนใจแนวพุ้ดดิ้ง หรือวุ้นๆ ดีต่อสุขภาพ พวกถั่ว พวกผลไม้ บ้านเราเมืองร้อน มันมีน้ำแข็งให้เราทานแบบชื่นใจ ผมว่าน่าจะทำได้ ก็เลยไปเรียนรู้มาและมาลองเปิดดู ในปี 2548-2549 ร้านไปได้ดี ด้วยกระแสของเรื่องแอพถ่ายรูปและเฟสกำลังมาแรงด้วย
ร้านเต้าหู้เย็นถังยี่ สาขาดอนเมือง มี 7 รสชาติ คือ ข้าวโพด ชาไทย เผือก สตรอว์เบอร์รี่ โกโก้ นมสด และทุเรียน แต่ที่สาขาเยาวราชมี 5 รสชาติ คือ ชาเขียว ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ เผือก และนมสด ขึ้นอยู่กับคนซื้อแฟรนไชส์ แต่ต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้เป็นเวลา 14 วัน รสนมสดยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่คนนิยม ขายดีสามเท่า
คุณธนัท พูดว่า “จริงๆ รสชาติต่างๆ ไม่ได้เหมาะกับเต้าหู้ ดังนั้น เราลดปริมาณเต้าหู้ลง เพื่อให้กลิ่นน้อยลง แต่ให้ได้คุณภาพอาหารตรงนี้อยู่ ประมาณ 15 เปอร์เซนต์ ถ้ามาก กลิ่นเหม็นเขียวของเต้าหู้จะออกมาตีกับพวกรสนมและอื่นๆ เอกลักษณ์ของเต้าหู้ถังยี่ คือ หนึ่ง ความนุ่มละมุน แทบไม่ต้องเคี้ยว ละลายในปาก สอง ได้สุขภาพ สาม ได้ความแตกต่าง”
“ตัวออริจินัลจากไต้หวัน จะเป็นตัววุ้นเต้าหู้ ผมนำเข้าวัตถุดิบตัวหนึ่งที่ช่วยทำให้เซ็ตตัว มันไม่เหมือนผงวุ้นทั่วไปที่แข็งไป เวลาบีบไม่แหวกออกแบบนี้ ถ้าเราใช้เจลลาติน มันจะแหวะออกจริง แต่จะอยู่ข้างนอกไม่ได้นาน จะละลาย เราไม่ใส่สารกันบูด จะเก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วันเท่านั้น”
นอกจากในเมนูแล้ว ร้านเต้าหู้เย็นถังยี่ ยังมีเซต D.I.Y. (Do It Yourself) อีกด้วย คือ อันดับแรก เลือกเต้าหู้รสอะไร ชาเขียว ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ เผือก และนมสด อันดับสอง เลือกธัญพืช เช่น จมูกข้าว ลูกเดือย ถั่วแดง ถั่วเขียว ซีเรียล งาขี้ม่อน และมันต้ม อันดับสาม เลือกผลไม้ เช่น กล้วยหอม มะม่วง แก้วมังกร แตงโม สัปปะรด และแคนตาลูป อันดับสี่ เลือก น้ำไซรัป รสซ็อกโกแล็ต เสาวรส สตอเบอรรี่ และมะม่วง โดยจะมีน้ำแข็งใสรองเต้าหู้ด้านล่าง คล้ายๆ บิงซู
คุณแดง ชอบถ้วยที่มีครบทุกอย่างในถ้วยเดียว เพราะว่า มีผลไม้ทุกอย่างที่ไม่ได้อ้วน แตงโมน้ำตาลน้อย พวกถั่วก็จะมีโปรตีน แก้วมังกรไม่มีน้ำตาลเยอะ กล้วยมีโปรตัสเซียม ทุกอย่างมีประโยชน์หมดเลย ถือว่าเป็นขนมที่มีประโยชน์ เต้าหู้จะมีความเนียน ละเอียด และไม่มีกลิ่น
กำแพงด้านหนึ่งของร้านเต้าหู้เย็นถังยี่ จะเป็นภาพวาดของสาวงามกำลังถือชามเต้าหู้เย็นแบบครบเครื่อง ที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านสไตล์ออกจีนๆ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง จะแขวนไปด้วยหน้ากากมากมายหลายสี เหลือง ส้ม และชมพู พร้อมกับโมเดลเล็กๆ ของชุดจีนโบราณที่อยู่ในกรอบรูปอีกด้วย
คุณแดง พูดว่า “สมัยนี้ คนชอบถ่ายรูป เวลาถ่ายรูปออกไปแล้วดูสวย ก็เลยให้เขามาวาดกำแพง ย่านนี้ วัยรุ่นเดินเยอะ และขนมก็เหมาะกับวัยรุ่น ได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพ ที่สำคัญ ราคาไม่แพง สามารถกินได้ทุกวัน”
