ครัวอัปสร ร้านใหม่สไตล์คลาสสิค กับรสชาติอาหารแบบไทยๆ

ครัวอัปสร แชมป์อาหารไทย 3 สมัย (2521-2523) จากสมาคมภัตตาคารอาหารไทย โดย ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ได้สร้างชื่อเสียงด้านอาหารไทยมายาวนานเป็นเวลา 44 ปี และได้ขยายไปแล้ว 15 สาขา ในปี 2564 นี้ ได้เปิดสาขาที่ 15 ในซอยวิภาวดี 50 กับบ้านโบราณ

ครัวอัปสร ซอยวิภาวดี 50 สไตล์บ้านคลาสสิค

คุณแดง-ณญาดา อมตวณิชย์ เจ้าของร้านครัวอัปสร พูดถึงทำเลของร้านใหม่นี้ ว่า “ฝั่งตรงข้าม เคยเป็นครัวกลาง แต่ว่า ตอนนั้นอยู่อเมริกา และมาเห็นค่าเช่าไม่แพงมาก เช่าเก็บเอาไว้เป็นสโตร์ พอดีวันหนึ่ง บ้านหลังนี้ให้เช่า ก็เลยเห็นว่า ลักษณะบ้านน่าจะทำขึ้นมาได้ ทำตั้งเกือบปี บ้านมันเน่า ไม่มีคนอยู่เป็น 10 ปี แต่ก็กำลังจะเจรจาขอซื้อ”

คุณแดง-ณญาดา อมตวณิชย์ เจ้าของร้านครัวอัปสร

โดยปกติแล้ว ครัวอัปสร จะตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าต่างๆ ในกรุงเทพ แต่ร้านใหม่นี้ จะเป็นสาขาที่ 2 ที่อยู่นอกศูนย์การค้า หลังจากร้านแรกในซอยพิบูลสงคราม 15 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนนทบุรี

จุดถ่ายรูปและเซลฟี่ พิพิธภัณฑ์บางกอก

ครัวอัปสร สาขาล่าสุดนี้ เป็นบ้านโบราณ 2 ชั้น ได้ถูกรีโนเวทใหม่ เป็นสีขาว ดูคลาสสิค กับป้ายพื้นสีแดงที่ทำให้ ครัวอัปสร สีทองโดดเด่น ชั้นสองด้านนอกอาคารจะถูกตกแต่งไปด้วยไม้ใบเขียวเหมือนเป็นม่านกันแดดทางธรรมชาติ ดูแล้วสบายตา ระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะแต่งเติมด้วยกันสาดผ้าใบสีพาสเทล

ด้านหนึ่งของร้านอาหารนี้ จะเป็นภาพวาดของพิพิธภัณฑ์บางกอก Bangkokian Museum พร้อมกับต้นซากุระสีชมพู 2 ต้นและรถจักรยานสามล้อคลาสสิค เพื่อไว้ให้ลูกค้าได้มาถ่ายรูปและเซลฟี่กันสนุกสนาน

มุมกาแฟและเบเกอร์รี่

เดินผ่านประตูบานเลื่อนเข้าไปในตัวร้านอาหาร จะเจอกับมุมกาแฟและเบเกอร์รี่ พร้อมกับภาพเก่าของครอบครัวและสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ตกแต่งไปด้วยภาพความทรงจำในอดีต

หลังจากนั้นก็จะเป็นห้องโถง ที่จัดไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหารด้วย และเชื่อมต่อไปยังอีก 2 ห้อง ห้องที่ติดกับห้องน้ำจะมีโต๊ะสำหรับมาเป็นกลุ่มและมาเป็นคู่ ที่สามารถมองผ่านกระจกออกไปด้านนอกได้ ตกแต่งไปด้วยจานลายครามขนาดต่างๆ และรูปภาพ ขณะที่อีกห้องหนึ่งติดกับบันไดไปชั้นสอง อาจจะไว้จัดเลี้ยงได้ ตกแต่งไปด้วยตู้โชว์กับเครื่องจานชามและกาน้ำ

เดินขึ้นชั้นสอง ก็จะมีลักษณะเดียวกันกับชั้นล่าง จะมีห้องโถงไว้สำหรับโชว์ของเก่าทั้งที่ยืมมาจากพิพิธภัณฑ์บางกอกและของเลียนแบบ คุณแดง เล่าให้ฟังว่า “ที่พิพิธภัณฑ์บางกอก คุณยายซื้อที่ข้างๆ ไว้เพื่อที่จะเปิดร้านครัวอัปสร เพื่อเอารายได้ไปทะนุบำรุงพิพิธภัณฑ์ แต่คุณยายเสียชีวิตก่อนในวัย 83 ปี ร่างกายสมบูรณ์แต่เกิดอุบัติเหตุตกระเบียง เรารู้สึกว่า คุณยายทำค้างไว้ ออกแบบเสร็จแล้ว กำลังจะก่อสร้าง ก็มาถึงตรงนี้ อยากบอกคุณยายว่า เราทำให้แล้วนะ เป็นครัวอัปสรที่เลียนแบบบ้านโบราณที่คุณแม่เติบโตมาตั้งแต่เด็ก ของเก่าที่นำมาตกแต่งมาโชว์ นำมาจากพิพิธภัณฑ์บางกอก เราไปสแกนมา ก็อปปี้มาและหาให้เหมือน เราไปหาของใช้ที่ตอนคุณแม่ยังเป็นเด็ก เป็นอุปกรณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องรีดผ้าโจงกระเบน สมัยนี้ไม่มีแล้ว ของแท้จากพิพิธภัณฑ์บางกอก แต่เรากำลังหาใหม่อยู่ ที่จะมาทดแทน ที่ตำหมากสมัยคุณทวด โม่ครก สมัยนี้ไม่ใช้แล้ว แม้กระทั่งตะกร้าไข่ เครื่องกดสลิ่ม”

ห้องนี้ ตกแต่งไปด้วยจานลายคราม

อีก 2 ห้องเป็นที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร หรืออาจจะไว้สำหรับส่วนตัวก็ได้ หรือจัดสังสรรค์ปาร์ตี้ก็ได้ด้วย ชั้นสองนี้ จะติด wall paper สีน้ำเงิน ขาว รวมถึงพื้นกระเบื้องด้วย ข้างฝาทั้งหมดจะตกแต่งไปด้วยรูปภาพเก่าในอดีต

โต๊ะสำหรับมาเป็นคู่

คุณแดง เล่าความเป็นมาให้ฟังว่า “ครัวอัปสร ร้านแรกได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2520 ตอนนั้นเป็นทั้งค็อกเทลเล้าจ์ สวนอาหารและคอฟฟี่ช็อป อยู่ในที่เดียวกัน คุณยายเก่งในเรื่องทำกับข้าว แต่ว่าเป็นสูตรของคุณแม่ ตอนนั้นคุณยายยังอยู่ แต่ไม่ได้มาทำแล้ว อายุเยอะแล้ว คุณแม่คงได้จากคุณยาย บรรพบุรุษทางด้านทำกับข้าว ปัจจุบันนี้ กลายเป็นเมเจอร์เอกมัยไปแล้ว

ทางขึ้นไปชั้นสอง ยังตกแต่งความเป็นไทย

“เราเป็นญาติกับบ้านนายเลิศ คุณหญิงสิน ภักดีนรเศรษฐ์ ภรรยานายเลิศ ทุกอาทิตย์ คุณทวดก็จะพาคุณแม่ไปทานอาหารที่ปาร์คนายเลิศ ก็จะจำอาหารมาและจะถามแม่ครัวว่าทำอย่างไร ก็มาหัดทำ พออีกเสาร์ต่อมา ก็จะเป็นแล้ว ทำอาทิตย์ละอย่าง คือเป็นคนที่เกิดมาชอบทำกับข้าว ก็เก็บมาเรื่อยๆ

เครื่องรีดผ้าโจงกระเบน

“จุดประสงค์ที่เปิดร้านครัวอัปสร ร้านแรกขึ้นมา ก็คือตอนนั้น พอเรียนจบ ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสที่การบินไทย วันหนึ่งมีข่าวเครื่องบินของสายการบินอื่นตก คุณแม่เหมือนเครียดและเป็นห่วง ก็เลยให้ไปเปิดร้านอาหารและแต่งไทยมาเสริฟก็ได้ อยากเสริฟอาหารใช่มั้ย ก็เลยเปิดร้านอาหารร้านแรกที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ติดกับศาลาไคเช็คชนม์ ไม่นานเนื่องจากมันเล็กไป ก็ย้ายไปอยู่ที่เอกมัย ที่เป็นเมเจอร์เอกมัยตอนนี้ อยู่ตรงนั้นหลายปีเหมือนกัน มีอยู่ช่วงหนึ่ง พี่น้องทั้งหมด ทั้งหมดบ้าน ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา กลับมาก็เปิดร้านครัวอัปสรขึ้นมาใหม่”

แกงส้มไหลบัว

ครัวอัปสร ร้านแรก ประกอบไปด้วย 2 ภาค ภาคแรกเป็นสวนอาหาร ภาคที่สองเป็นร้านอาหารที่มีเต็มเมนู เมนูที่สวนอาหาร คือผัดราดหน้าไฟแดง โกยซีหมี่ ผัดคั่วไก่ และผัดไท ส่วนร้านอาหารที่เป็นนั่งเสริฟเต็มเมนู ก็จะมี ปูผัดผงกะหรี่ ทำตั้งแต่ 2520 กุ้งผัดพริกเหลือง ขนมจีนน้ำพริก ขนมจีนน้ำยา น้ำพริกหลน แกงส้มไหลบัว แกงส้มชะอมไข่ อาหารไทยๆ รสชาติดั้งเดิม

กุ้งผัดพริกเหลือง

เมนูของคุณยาย น่าจะเป็นข้าวตังหน้าตั้ง คุณยายเป็นลูกครึ่งญวนและฝรั่งเศส ก็จะเป็นอาหารทางด้านญวนสักเยอะ แต่เราไม่ได้ทำเชื่อมต่อทางญวนมา

เมนูคุณแม่ น้ำพริกมะม่วง เพิ่งออกรายการ “ครัวคุณต๋อย” ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ เอามาตำ และใช้พริกเหลืองเยอะ เพื่อให้มันหอม ถ้าคนไม่กินเผ็ดก็ไม่ต้องใส่พริกขี้หนูเพิ่มลงไป กับปลาทูทอด ราดหน้าก็เป็นสูตรของคุณแม่

ปลากระพงทอดน้ำปลา

เนื่องจากอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชากำลังเป็นเทรนด์ ครัวอัปสร ก็มีเมนูกัญชาด้วยเหมือนกัน หลังจากที่คุณแดงได้ลองทำและลองชิมด้วยตัวเอง

“เราก็อยากเอากัญชามาทำอาหารนานแล้ว หนึ่งมีประโยชน์เยอะ ที่มันถูกกักขังเป็นพืชเสพติดแต่ถ้าเราไม่ใช้แบบเสพติด มันมีประโยชน์มากมาย บางคนนำไปใช้เรื่องมะเร็ง ความดัน หลายๆ อย่างมากเลย เมื่อเขาอนุญาติให้เป็นถูกต้องแล้ว เราก็อยากจะเอามา ทำให้อาหารกลมกล่อม เคยเอามาทำทานเองที่บ้าน คือเวลาใส่ไปในน้ำซุป มันทำให้เราไม่สามารถวางช้อนได้ แปลกมากเลย มันนัว ปกติเรากินข้าวจะกินซุปไม่ค่อยหมด แต่พอจะวางช้อนไป ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว บอกไม่ได้ว่ามันอร่อยตรงไหน มันกลมกลืนกันไปเลย มีประโยชน์ด้วย อร่อยด้วย ทำใมเราจะไม่เอามาใช้”

เมนูครัวอัปสร สามารถเลือกใส่กัญชาได้ เพียงเพิ่มเมนูละ 50 บาท

ทุกเมนูของครัวอัปสร สามารถใส่กัญชาได้ตามแต่ลูกค้าจะสั่ง โดยคิดค่าบริการเพิ่มอีกเมนูละ 50 บาท แต่คุณแดงแนะนำ ต้มยำน้ำใสใส่กัญชา และ ข้าวแช่น้ำกัญชา นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่ม น้ำกัญชาใส่หญ้าหวาน อีกด้วย เพียงแก้วละ 40 บาทเท่านั้น

ครัวอัปสร ซอยวิภาวดี 50

CALL: 0629744333

Facebook: ครัวอัปสร-วิภาวดี50

https://bit.ly/2RwDbIV

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *