About Coffee Garden กับบรรยากาศสุดชิว ร่มรื่นและโรแมนติก

ครั้งหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวและปั่นจักรยานที่จังหวัดลพบุรี MRBADBOY ได้เหลือบไปเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่งชื่อว่า About Coffee Garden ที่น่าแปลกคือตั้งอยู่ใกล้กับแยกไฟแดง แถวตำบลท่าศาลา ดูจากภายนอกแบบผ่านๆ ไม่รู้เลยว่าร้านกาแฟร้านนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร เนื่องจากถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้เลื้อยมากมาย ได้แต่เดาว่า ร้านอาจจะถูกออกแบบเหมือนสวน ตามชื่อร้าน

แล้ววันหนึ่ง ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชม ชิมกาแฟและอาหาร ร้านกาแฟร้านนี้ ก็ได้พบว่า สิ่งที่ MRBADBOY ได้เดาไว้ถูกต้อง About Coffee Garden เป็นเหมือนสวนจริงๆ ที่ให้ความร่มรื่น ร่มเย็น แบบธรรมชาติ และให้ความเป็นโรแมนติกด้วย

About Coffee Garden มีสองทางเข้า ทางเข้าแรกตรงด้านติดกับถนนใหญ่ จะมองเห็นชื่อร้านตัวโตๆ สีขาว โดดเด่น ที่ถูกยึดด้วยไม้ระแนงด้านหลังคล้ายๆ กับรั้วของสวน ขณะที่หน้าร้านจะเห็นความคอนทราสท์ของทรูโทนของสีไม้ในส่วนที่มีประตูและสีดำของ black metal sheet แต่เข้ากันได้ดีกับความเขียวของต้นไม้และไม้ดอกต่างๆ สำหรับทางเข้าที่สอง คือด้านฝั่งที่จอดรถในซอยเฉลิมพระเกียรติ ก็จะสะดุดตาด้วยป้ายชื่อร้านขนาดใหญ่ตัวหนังสือสีดำบนพื้นขาว ถูกแขวนอยู่ตรงรั้วที่ถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อย ไม้ดอก ไม้ประดับต่างๆ ราวกับว่า เป็นเหมือนบ้านเล็กในป่าใหญ่

หลังจากที่ MRBADBOY ได้เดินผ่านประตูฝั่งที่จอดรถเข้ามา ทำให้เราได้รู้สึกว่า เหมือนกำลังเดินอยู่ในสวน เดินย่ำบนกรวดที่ปูบนพื้นที่ๆ เป็นดิน สัมผัสความเขียวขจีของต้นไม้สองข้างทาง จะเห็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ 3 ชุดตรงขวามือที่ติดกับร้านที่สามารถแบ่งเป็น 2 และ 4 คน และมีที่นั่งแบบโรแมนติกอีก 2-3 ชุดใกล้ๆ ริมรั้ว

ขวัญนารี ศรีโสภา หรือ อุ๋ย เจ้าของร้าน About Coffee Garden ได้เล่าให้ฟังว่า “ตอนยังไม่ได้เปิดร้าน เรามีเพจของเรา ชื่อ About Coffee ในปี 2013 พอเปิดร้าน เราอยากอยู่กับธรรมชาติมากๆ เพราะว่าเราทำงานที่กรุงเทพค่อนข้างเครียด ก็เลยเอาคำว่า garden มาใส่ให้เหมือนอยู่ในสวน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับกาแฟ เราอยากจะนำเสนอไม่ว่าเป็นรูปแบบไหนก็ตาม … all about coffee

ขวัญนารี ศรีโสภา หรือ อุ๋ย เจ้าของร้าน About Coffee Garden

“ไอเดียการตกแต่งร้านคือ มีอะไรก็ทำแบบนั้น มองมุมอะไรที่เราพอจะทำได้ ความสวยงามอยู่ที่ความคิดของแต่ละบุคคลซึ่งคิดไม่เหมือนกัน เราอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างว่า คือศิลปะไม่ได้มีขีดจำกัด บางคนวางดอกไม้อีกแบบหนึ่งจะสวย แต่เรารู้สึกว่าวางแบบไหนก็ได้ที่เราชอบและเราภูมิใจที่เสนอมัน มันก็เลยเป็นผสมผสาน มันเหมือนเป็นรายละเอียดที่คนอื่นก๊อปปี้ไม่ได้ เพราะว่ามันมาจากความรู้สึกของเราเอง”

สิ่งแรกที่ MRBADBOY ได้รู้สึก หลังจากก้าวเท้าเข้าไปภายในร้านกาแฟนี้ คือความเป็น cozy แบบสบายๆ กันเองดี ดูอบอุ่นกับสี earth tone ข้างในไม่เล็กไม่ใหญ่ ดูโปร่งๆ เนื่องจากกำแพงมีหน้าต่างเป็นกระจกรายรอบ และเป็นแถบที่เป็นส่วนของโต๊ะเก้าอี้ ตรงข้ามก็เป็น coffee bar ออกสีขาวและดำ กับข้อความว่า “Start your day with a good coffee and with a positive thought” และ “Believe in yourself” การตกแต่งเป็นอย่างเรียบง่าย หรือแม้แต่เพดานก็แขวนไปด้วยตะเกียงเจ้าพายุบ้าง ปิ่นโตสีสันสวยงามบ้าง

อุ๋ยบอกกับ MRBADBOY ว่า เครื่องดื่มที่ขายดีที่สุดน่าจะเป็น Americano เพราะว่าเราเลือกใช้เมล็ดที่หลากหลายจากทั่วโลก มานำเสนอให้กับลูกค้า นอกจากนี้ เรายังมี signature หลากหลายตัว ซึ่งก็เป็น based on Americano style ขายดีมากๆ ถ้าย้อนหลังไป 7 วัน Americano กินขาดเลย เครื่องดื่มที่ไม่ได้ใส่นม มันอาจจะมาจากเทรนของคนรักสุขภาพ เพราะว่าทานกาแฟเยอะมีแนวโน้มว่าน้ำหนักจะขึ้น เพราะว่าบางร้านอาจจะใช้วัตถุดิบทำให้อ้วนได้ แต่ Americano ที่นี่จำหน่ายค่อนข้างเยอะ ด้วยรสชาติไม่ได้ขมขนาดนั้น มันทำให้เราแตกต่าง

แต่ที่ร้านกาแฟนี้ไม่ใช่มีแค่กาแฟเท่านั้น มีเมนูอร่อยๆ อีกมากมายให้เลือก โดยอุ๋ยอยากจะนำเสนออาหารจะเป็นเมนูพริกเผา ข้าวผัดพริกเผามันกุ้ง ข้าวกระเพราปลาสลิด และก็เมนูไก่กรอบทั้งหมด นอกจากนี้เราจะมีเมนูเปลี่ยนทุกเดือน จริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นเชฟ แต่ได้รางวัล Wongnai’s User Choice in 2019 เพราะว่าได้คาเฟ่ที่คัดเลือกจาก 200,000 ร้านค้า เลือกมา 480 ร้านค้าทั่วประเทศ มันเป็นความชื่นชอบของเรา รายได้ของอาหารไม่ได้กำไรเยอะนัก เนื่องจากการคัดสรรของวัตถุดิบอย่างดี แต่ในราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ เมนูที่ MRBADBOY ชอบก็คือ สลัดกุ้งกรอบ ที่มีกุ้งอยู่ 4 ตัวเวลาเคี้ยวจะกรอบๆ พร้อมกับผักสลัดสดๆ ที่ราดด้วยน้ำสลัดอร่อยๆ

ก่อนมาเปิดร้านกาแฟนี้ อุ๋ยได้เป็นพนักงานออฟฟิตที่บริษัทกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงเทพเป็นเวลา 5 ปี เลยทำให้อุ๋ยมีประสบการณ์เรื่องการทำกาแฟ ตั้งแต่การคั่วกาแฟ จำหน่าย ขายเครื่อง และเป็น consult กับแบรนด์ต่างๆในปั้มน้ำมัน จากประสบการณ์ชีวิตก็คือ อุ๋ยได้จัดงานอีเว้นต์ เป็นผู้จัดรายการการแข่งขัน และบาริสต้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเขา ปัทมาภา จูหมื่นไวย์  หรือใบหม่อน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองของ National Thailand Barista Championship 2015 ซึ่งก็ไปแข่งระดั้บอาเซียนด้วย

“งานร้านกาแฟอินดี้ มันค่อนข้างที่จะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก พอเราได้ลงมือทำ ด้วยเงินของเราเอง ด้วยแรงของเราเอง มันทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง ในการที่เราจะหาหนทางของเราเอง หาความแตกต่าง และก็ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจในเรื่องผลิตภัณฑ์ของเรา สมัยก่อน lifestyle ในการดื่มก็จะเป็นกาแฟเข้มๆ แต่ว่าในปัจจุบันนี้ มันเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เพราะว่ามันก็จะล้อไปกับกาแฟสากลของโลก ดังนั้นคือ กาแฟต่างประเทศ เราก็จัดมาตั้งแต่ตอนแรกเลย และก็เครื่องดื่มที่ใช้ในการแข่งขันปี 2015 ที่ได้รางวัล เราก็นำมาประยุกต์ใช้เพื่อนำเสนอ story ของเรา และให้กับลูกค้าที่มีความชื่นชอบของการดื่มกาแฟรสชาติใหม่ๆ โดยที่ไม่ใช่เป็นรูปแบบเดิมๆ เพราะว่าการที่ใส่นมข้นหวานหรือครีมเทียม มันก็ยังคงมีอยู่ แต่ว่าระดับของการคั่วเมล็ดกาแฟในการนำมาใช้ มันเปลี่ยนไปจากปัจจุบัน

“ถ้าคนที่ไม่เคยทาน อาจจะรู้สึกว่ามันใหม่และไม่ใช่ แต่ว่า ตอนที่คิดทำ ไม่ได้ยาก แต่การที่จะนำเสนอและทำให้คนอื่นชื่นชอบและเห็นคล้อยตามว่า ปัจจุบันไม่ได้มีการดื่มกาแฟแบบเดิมๆ เพราะว่า คนที่ไม่ใช่คอกาแฟ เครื่องดื่มทุกตัวคิดขึ้นมาให้เขาดื่มง่าย สร้างความสดชื่น ปัจจุบันเผอิญ ต้องบอกว่าโลก social สื่อประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งเวทีการแข่งข้น มันเยอะมาก มันทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าใจว่า signature มันคืออะไร ดังนั้นสินค้าของร้านเรา จะล้อไปกับการแข่งขันระดับสากลหรือระดับโลก การชงกาแฟจะไม่ใช่เรื่องการเสริฟจากเครื่องอย่างเดียว จะมี slow bar ซึ่งเป็นกาแฟดริป (drip) หรือว่าจะเป็นไซฟ่อน (syphon) หรือว่าจะเป็น signature drink ที่คนนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มในการแข่งขัน หรือแม้กระทั่ง เครื่องดื่มที่ใสแอลกอฮอล์ โดยปัจจุบันก็มีการแข่งข้นแล้ว ซึ่งประเทศไทยก็ได้ไปแข่งขันในเวทีนั้นๆแล้ว เครื่องดื่มมีความสนุกมากขึ้น ลูกค้าก็ได้ enjoy กับสิ่งที่มันแปลกใหม่ แต่ว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของความรู้ เพราะว่าการที่จะนำกาแฟตัวไหนมาใช้กับเครื่องดื่มประเภทนี้ มันต้องดูว่ามันล้อไปด้วยกันหรือเปล่า หรือว่า flavour ไปด้วยกันได้หรือเปล่า”

อุ๋ย ทำให้ MRBADBOY ทึ่งกับจุดเริ่มต้นของร้านกาแฟนี้ว่า ไม่มีหลังคา ไม่มีต้นไม้ หรือแม้แต่ประตู แต่เธออาศัย “ความจริงใจและประสิทธิภาพ” ของด้านสายงานอาชีพของเขา ของเครื่องดื่มที่มีความแตกต่าง การบอกปากต่อปากของลูกค้า เป็นการตลาดที่ดีวิธีหนึ่ง จนกระทั่งวันนี้ About Coffee Garden ดำเนินธุรกิจมาถึง 4 ปี

“มีขึ้นมีลง เพราะว่าร้านกาแฟเปิดค่อนข้างเยอะมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกก็คือว่า ทำให้มันดีที่สุด คือมันมีวันที่เหนื่อยจนร้องไห้ก็มี หรือมีความกลัวต่อวันที่เรารู้สึกว่า เราจะดูแลลูกน้องเราได้มั้ย แต่ทุกครั้งเราก็จะบอกกับตัวเองว่า ไม่มีอะไรที่เราจะไม่เสี่ยงในชีวิตของเรา แค่เราทำให้มันเต็มที่ และก็การปรับตัวให้เร็วที่สุดกับการยอมรับสภาพ เช่น ถ้า section ไหนไม่โอเคร เราก็ drop มันไป เราก็คง keep our strength เรื่องจิตใจหรือ mindset ของเราสำคัญมากที่สุด เราบอกเด็กๆว่า วันนี้เราต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อมีวันพรุ่งนี้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *