DIY TRAIN TRIP in LOPBURI: เที่ยวทุ่งทานตะวัน

“นั่งรถไฟครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” เป็นคำถามที่หลายๆคนเคยถามตัวเอง หรือเคยถูกเพื่อนถาม บางคนก็ตอบได้ บางคนก็นึกไม่ออก จริงๆแล้ว มันก็นานพอสมควรเหมือนกันสำหรับ MRBADBOY เพราะว่าส่วนใหญ่ใช้บริการสายการบิน เวลาไปจังหวัดไกลๆ และรถตู้สำหรับจังหวัดใกล้ๆ แต่ปีที่แล้ว หรือ สองปีที่แล้ว ได้ลองหัดเที่ยวเองโดยรถไฟเป็นครั้งแรก แบบนานมาก จนลืม

                ดังนั้น ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำเสนอ การเที่ยวโดยรถไฟ ในเว็บ MRBADBOYGO เป็นครั้งแรกละกัน และจังหวัดที่ประเดิมคือ ลพบุรี จริงๆแล้วเคยไปลพบุรีก็หลายครั้ง เที่ยวโบราณสถาน เช่น ศาลพระกาฬที่มีลิงเยอะๆ และพระปรางค์สามยอด หรือแม้แต่มาร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” เมื่อปีที่แล้ว

                แต่ครั้งนี้ ความตั้งใจแรกของ MRBADBOY คือ เที่ยวทุ่งทานตะวัน ที่ถูกจัดว่าเป็นจุดชมดอกทานตะวันที่สวยที่สุดในประเทศไทยวัดเขาจีนแล และไปเก็บภาพสวยๆ กับกล้องตัวใหม่ Canon EOS 80D ด้วย ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว เอาไปใช้ซะ

                ดูข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆก็บอกว่า เทศกาลทุ่งตะวันบานสะพรั่ง ได้ถูกจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของทุกปี และช่วงเดือนมกราคม ดอกจะเริ่มโรยแล้ว แต่ด้วยความอยากจะไปมากกว่า ก็เลยตัดสินใจไปวันที่ 4 มกราคม 2563 ช่วงหยุดยาวปีใหม่ และลองไปโดยรถไฟดูบ้าง

                หลังจากเช็คตารางรถไฟที่เว็บ www.railway.co.th และได้พบว่า ขบวนรถไฟช่วงเช้าที่ไปลพบุรีคือ ขบวนหมายเลข 111 ประเภทรถเร็ว เวลา 7:00 น. ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มันไกลและต้องตื่นแต่เช้ามากเพราะว่าบ้านของ MRBADBOY อยู่แถวแยกหลักสี่ ก็เลยโทรสายด่วน 1690 ดีกว่า ซึ่งมีโอเปอร์เรเตอร์เสียงสวยรับสายให้บริการ ว่ารถไฟที่จะไปลพบุรีผ่านสถานีบางเขน ทุ่งสองห้อง และหลักสี่ แล้วจะมาถึงสถานีหลักสี่เวลา 7:42 น. หลังจากวางสาย ก็ให้คะแนนเต็มไปเลยกับความพึงพอใจ

                เอาวะ ใกล้บ้านละ MRBADBOY ก็มาถึงสถานีหลักสี่ เวลา 7:00 น. เผื่อเวลาไว้กันพลาด ตอนแรกว่าจะจองตั๋วรถไฟชั้น 2 เป็นพัดลม เป็นที่นั่งแบบรถทัวร์หันหน้าไปทางเดียว แต่เต็ม ถ้าจะไปแบบมีแอร์ต้องรอช่วง 9 โมงกว่าๆ ไม่เอาดีกว่าเสียเวลาเที่ยว เลยเลือกตั๋วชั้น 3 แทน ราคา 40 บาท ก็มีเบาะนั่งเหมือนกันแต่หันหน้าชนกัน และเจ้าหน้าที่ขายตั๋วบอกว่า ต้องไปหาที่นั่งเอาเอง เอาละสิ คราวก่อนก็ยืนต้อง 2 ชั่วโมง เอาวะ เป็นงัยเป็นกัน

                ปรากฏว่า รถไฟมาช้ากว่ากำหนด มาถึงเวลา 8 โมงเช้า ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมากของความล่าช้า แต่กระนั้น มันก็ทำเวลาได้ตามระยะเวลาที่กำหนดคือ 2 ชั่วโมงพอดี มาถึงสถานีลพบุรี 10 โมงเช้า ก็ต้องขอเก็บภาพสถานีก่อนที่มีจุดเช็คอินหลายจุด ส่วนใหญ่เป็นรูปปั้นลิงและดอกทานตะวัน ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดนี้

                ออกจากสถานีมา MRBADBOY จำข้อมูลได้ว่า ต้องไปที่ตลาดเพื่อไปขึ้นรถสองแถว แต่เนื่องจากอากาศร้อนมากแดดแรงมาก ขณะที่คนที่นี่ยังบอกว่า ร้อนกว่าวันก่อนๆ จู่ๆก็มี คนขับรถพาเที่ยว มาเสนอราคา 600 บาท ลดจาก 800 บาท เขาบอกว่าเห็นมาแค่สองคน และจะพาไปสองสามจุดแบบไม่จำกัดเวลาเที่ยวแต่ละที่ เอาวะ อย่างน้อยก็เย็นสบายหน่อย

                คนขับบอกว่า จากสถานีรถไฟลพบุรี ไป ทุ่งทานตะวัน ที่วัดจีนแล ประมาณ 20 กิโลเมตร แต่เขาจะหยุดให้เราเที่ยวชมทุ่งดอกคอสมอส ที่ร้านกระเพรา & Coffee ก่อน (จะนำเสนอในตอนต่อไปนะครับ) จากที่นี่ไปอีกนิดเดียวน่าจะประมาณกิโลกว่าๆ สองข้างทางระหว่างถนนที่ขนานลานทุ่งทานตะวันเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งของฝากกลับบ้าน เช่น เม็ดทานตะวันคั่วกันสดๆ ของขึ้นชื่อที่นี่ และน้ำผึ้ง

                จริงๆแล้ว การมาเที่ยวชมทุ่งดอกทานตะวัน ควรจะมาช่วงหน้าหนาว ดีกว่า เพราะว่า ทุ่งทานตะวัน ที่เขาจีนแล ปลูกอยู่บนเนื้อที่ 1,400 ไร่ ถือได้ว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว กว้างใหญ่มาก ถ้าจะถ่ายตามจุดต่างๆทั่วบริเวณพื้นที่นั้น คงไมจบในวันเดียวแน่ ถึงแม้ว่าจะมีรถรางชมดอกทานตะวันตามจุดต่างๆ ระยะใกล้ๆ ในราคา 20 ต่อคน และมีขี่ม้าด้วย แต่ไม่ได้ถามราคา

                แต่ MRBADBOY เลือกที่เดินถ่ายรูปตามแต่ใจต้องการมากกว่า ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนมากๆ ช่วงเที่ยงและบ่ายโมง ดอกไม้ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เหี่ยวเฉา แต่ดอกจะมีคอตกบ้าง ถือว่าเป็นความโชคดีของเรา เมื่อคนขับรถบอกว่า ปีนี้ดอกทานตะวันปลูกช้ากว่าปีก่อนๆ

                มันช่างเพลิดเพลินเสียนี่กระไร กับทิวทัศน์ที่สวยงาม สีเหลืองอร่ามของดอกทานตะวันมากมายแผ่กระจายไปทั่วลานกว้างใหญ่ไพศาล และมี backdrop เป็นเขาจีนแล ที่มีภูเขาสูงต่ำลดหลั่นกันไป แต่ถ้าหันหน้าไปถ่ายภาพด้านตรงกันข้าม ช่วงเวลานี้ก็ไม่ถึงกับย้อนแสงมาก ก็จะสวยงามไปอีกแบบของแกนสีเขียวกับสีเหลืองของดอกทานตะวัน

                เราจองตั๋วรถไฟขากลับล่วงหน้าไว้แล้ว เที่ยวสุดท้าย คือเวลา 18:06 ขบวนรถไฟหมายเลข 102 เป็นชั้น 2 อยากนั่งสบายๆบ้าง ก่อนที่มันกำลังจะเต็ม ยังพอมีเวลาเหลือเฟือไปนั่งชิลๆ กินอาหารอร่อยและเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ร้าน About Coffee Garden ตรงแยกไฟแดง ซอยเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าศาลา ก่อนกลังกรุงเทพๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *