ล่องเรือชมธรรมชาติ ผ่อนคลายสปาเกลือ เมนูสุดแปลก

อยากเที่ยวชิล ๆ สไตล์ธรรมชาติและสุขภาพสัก 1 วัน ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ เพราะเบื่อการนั่งรถหลายชั่วโมง จริงๆ ก็มีหลายที่ตามจังหวัดใกล้เคียง แต่สุดท้ายก็เลือก จังหวัดนครนายก เพื่อที่จะไปนั่งเรือเที่ยว ลมพัดเย็นๆ ชมความงามแห่งสายน้ำ แถวเขื่อนขุนด่านปราการชล และไปอบซาวน่าเกลือจากประเทศเกาหลี ที่วังรี คีรียา แล้วไปชิมเครื่องดื่มเมนูสุดแปลกที่คาเฟ่สายมู drin’c

เมื่อมาถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล เราก็ไปติดต่อซื้อบัตรได้ที่ศูนย์ที่ให้บริการล่องเรือ ซึ่งอยู่บริเวณลานจอดรถ ควรเข้าห้องน้ำที่นี่ให้เรียบร้อยเพราะจะต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงบนเรือและบนเกาะ

เรือที่จะพาเราไปทัวร์ 3 น้ำตก ผางามงอน คลองคราม และช่องลม เป็นเรือหางยาวมีหลังคาและมีเสื้อชูชีพให้ด้วย ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกับการสัมผัสลมสบายๆ และเย็นๆ ของน้ำที่กระเซ็นจากการแล่นแหวกของเรือ

น้ำตกคลองคราม

เป็นที่น่าเสียดาย เราไม่สามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนเกาะ เหมือนที่เราได้เห็นในยูทูปของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ฝนตกและน้ำท่วมหลายจังหวัด แต่เราก็ยังโชคดีได้ขึ้นจุดเดียว คือ น้ำตกผางามงอน

น้ำตกช่องลม

เราขึ้นจากเรือไปที่เกาะ อาจจะเดินลำบากนิดนึง เนื่องจากเป็นโขดหินน้อยใหญ่ ดังนั้นเราต้องใช้กำลังแขนของเราในการจับเชือกเพื่อดึงตัวเราเองไต่ขึ้นไปให้ได้ ไม่กี่นาทีก็เห็นน้ำตกแล้ว ขอหยุดถ่ายรูปตรงนี้สักหน่อย ตรงนี้ก็สวยแล้ว แต่ข้างบนน่าจะสวยกว่า เพราะเห็นน้ำตกเต็มๆ

น้ำตกผางามงอน

เลยตัดสินใจลุยขึ้นไปอีก ต้องปีนป่ายบนโขดหินน้อยใหญ่ ต้องระวังการลื่นไหลเนื่องจากตะไคร่น้ำ และต้องหลบหลีกนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่กำลังสวนทางลงมาด้วย ปรากฏว่า สวยจริงๆ เลยกดชัตเตอร์แบบรัวๆ ไป ก่อนเดินทางกลับขึ้นฝั่ง

น้ำตกผางามงอน

ได้ออกแรงในการปีนป่ายมาพอสมควร ก็ถึงเวลาไปคลายกล้ามเนื้อสักหน่อย ที่ซาวน่าเกลือ หรือ สปาเกลือ ที่วังรี คีรียา ซาวน่าเกลือ & สปา ซึ่งเคลมว่าเป็นเซาน่าเกลือแห่งแรกในประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาโรคภูมิแพ้และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจอย่างจริงจัง

นางสาวขวัญฤทัย รุ่งเรือง เจ้าหน้าที่ดูแลสปา มาให้ข้อมูลว่า “ความเป็นมาของสปา ซาวน่าเกลือ ของเราเกือบ 20 ปี ก็คือ เป็นเกลือที่นำเข้าจากเกาหลีและถูกเผาผลาญมาแล้ว 1,000 องศา ก็คือจะช่วยในเรื่องของสุขภาพในการบรรเทาปวดเมื่อย ถ้าใครที่มาพักที่นี่ มันจะมีชุดให้เปลี่ยนให้มานั่งพักอบตัว อยู่ที่ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที ก็อยู่ที่ว่าเราจะไหวแค่ไหน ให้เหงื่อมันออกมาให้มากที่สุด มันจะช่วยบรรเทาความปวดเมื่อยของเรา ใครที่เป็นโรคผิวหนังมา เป็นผดเป็นผื่นมา มันจะช่วยระบายออกมาจากรูขุมขน และก็ช่วยในเรื่องเลือดไหลเวียนให้มันสะดวก และก็ในเรื่องของโรคภูมิแพ้ ให้เราสูดอากาสในห้องนี้ให้ได้มากที่สุด มันจะช่วยเหมือนล้างสารพิษออกมาจากเหงื่อของเรา เราจะเปลี่ยนเกลือทุกปี เอามาแปะส่วนที่มันกร่อนเนื่องจากความร้อน”

ซาวน่าเกลือ หรือ สปาเกลือ นำเข้าจากประเทศเกาหลี

ดูจากด้านนอกเหมือนห้องธรรมดา แต่พอเปิดประตูเข้าไปเหมือนถ้ำเกลือ เกลือที่นี่นำเข้ามาจากเกาหลีใต้สำหรับทำสปาโดยเฉพาะ ผ่านการเผาด้วยความร้อน 1,000 องศาเซลเซียส มีสรรพคุณช่วยล้างพิษออกจากรางกาย ผิวพรรณสดใส ช่วยหายปวดเมื่อยทั้งร่างกาย รวมถึงเท้าที่เหยียบบนก้อนเกลือร้อนๆ

ซาวน่าที่นี่ มี 3 ห้อง แล้วแต่ความชอบ จะเลือกห้องที่เป็นพื้นโล่งๆ หรือ ห้องที่ทำที่นั่งยาวๆ ชิดผนังเพื่อให้นั่งเล่น นอนเล่น เหมือนห้องซาวน่า หรือจะเลือกห้องด้านในสุดที่มีบ้านหลังเล็กๆ ขาวโพลน ให้นึกถึงบ้านเอสกิโม แต่ที่นี่ร้อนนะ ด้วยอุณหภูมิ 50 องศา เข้าๆ ออกๆ สัก 3 ครั้ง ร่างกายเบาหวิวเลย

ได้ออกแรง ได้ผ่อนคลาย ตอนนี้มาเติมพลังงานให้กับร่างกาย ที่คาเฟ่สายมู drin’c ที่มีเมนูของหงานมากมาย เช่น เงาะสองสี เมเปิลโทสต์ เค้กมันม่วง เค้กส้ม เค้กมะพร้าวอ่อน และเมนูเครื่องดื่มสุดแปลกพิสดาร อาทิเช่น เจ้าแม่ตะเคียน นาคาชมพูจิตร ฟ้าหลังฝน ลมหวน หวานอมขมกลืน และ รักเอยเตยหอม ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ

บาริสต้า สัจจาศิลป์ พันธ์ลิมา อธิบาย 2 เมนูใหม่ เจ้าแม่ตะเคียน และ นาคาชมพูจิตร ให้ฟังว่า “ด้วยความที่ว่าที่นี่มีศาลเจ้าแม่ตะเคียน เขาก็เลยให้ทำเป็นโจทย์สำหรับเมนูพิเศษ คอนเซ็ปต์ก็เลยได้เป็นแก้วเป็นทรงขอนไม้ และผมคิดว่าถ้าเรามองที่ศาลเจ้าแม่ตะเคียน เราก็จะเห็นว่าเขามีการนำผ้าสามสีเข้ามาเป็นการเคารพ ผมก็เลยเอาผ้าสามสีน้ำมา adapt เข้าไปอยู่ในเครื่องดื่ม จะเป็นคอนเซ็ปต์เล่น Layer 3 สี เครื่องดื่มผมก็จะมองความเป็นไทยมาก่อน ก็เลย adapt นำวัตถุดิบที่เป็นไทยเข้ามาใช้ โดยจะเอาเป็นตัวกระชาย ขิง มะกรูด ตะไคร้ เป็นส่วนประกอบหลัก สีเขียวจะเป็นตัวของไซรัปนิดนึงและก็จะเป็นน้ำขิงและน้ำผึ้งให้ความสดชื่น ส่วนสีแดงจะเป็นมะขามและทับทิมเพื่อเชี่อมให้เข้ากับกระชายและตะไคร้ เมนูนี้จะให้รสชาติสดชื่น ชุ่มคอ ดื่มแล้วโล่งคอ

เจ้าแม่ตะเคียน
นาคาชมพูจิตร
เงาะสองสี
เค้กมันม่วง

“ตัวเมนูนี้ก็จะเป็น อย่างที่บอก เจ้าแม่ตะเคียนของที่นี่้เป็นโทนเย็น นาคาเป็นโทนร้อน แต่เวลาเราดูหนัง นึกถึงพิษพญานาคที่มีความเผ็ดร้อน ก็เลยนำเอาพริกเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็จะมีนำในส่วนของมะเขือเทศเข้ามาดับความเผ็ดร้อนนิดนึงเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น จะมีส่วนผสมของตะไคร้และสับปะรด เมนูจะมีความเผ็ดแบบสดชื่น”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *