“C.P.S. COFFEE” สุขุมวิท 53 ทันสมัยเหนือกาลเวลา

“C.P.S. COFFEE” เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์แห่งใหม่ย่านสุขุมวิท 53 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Timeless” ทันสมัยเหนือกาลเวลา พร้อมเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่สุดพิเศษ และเอาใจคนรักสัตว์ด้วยโซน Pet Friendly

อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ CPS CHAPS กล่าวว่า “เราอยากสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ให้กับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟและนั่งชิลล์ในคาเฟ่ ให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามา ให้คนที่ไม่ดื่มกาแฟสามารถลองเปิดใจชิมกาแฟของเราดูสักครั้ง เราตั้งใจให้ร้านสาขานี้เป็นเหมือนแฟล็กชิพสโตร์ แหล่งรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในบรรยากาศและรสชาติกาแฟของเรา เราได้คิดค้นเมนู Dirty Coffee ขึ้นใหม่สำหรับสาขานี้โดยเฉพาะ อยากให้คอกาแฟทั้งหลายได้ชิมรสชาติกาแฟใหม่ๆ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถิพิถันจากบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญและเมนูเบเกอรี่อีกมากมาย เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความสุขท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน”

“เราอยากสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ให้กับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟและนั่งชิลล์ในคาเฟ่ ให้มีความเป็นกันเองมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามา” – อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ CPS CHAPS

โต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร นักออกแบบคาเฟ่ อธิบายว่า “เราได้นำเอาคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่มีความหมายแฝงอยู่ในตัวย่อ C.P.S. มาถ่ายทอดสู่การออกแบบร้านโฉมใหม่ที่ถูกซ่อนอยู่หลังกำแพงใหญ่สีขาวบริเวณด้านหน้า เพื่อสร้างความดึงดูดน่าค้นหาให้คนอยากจะเข้ามาสัมผัสกับสิ่งใหม่ที่ทางแบรนด์อยากจะนำเสนอ Coffee, Passion, Specialty และจุดสามจุดที่อยู่ในตัวย่อ สะท้อนให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่แท้จริง เป็นร้านกาแฟที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความหลงใหลและความใส่ใจในการรังสรรค์เมนู การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ รวมถึงตัวบาริสต้าด้วย”

ภายในจะเล่นโทนสีอ่อน กลาง และเข้ม นั่นคือเฟอร์นิเจอร์ได้ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ตามระดับความเข้มกาแฟ และผนังกำแพงสีขาวอันโดดเด่นจะมีโทนสีไม่ซ้ำกันในแต่ละวันซึ่งเกิดจากการหักเหของแสง รวมถึงการใช้สีของครีม่า (สีของชั้นโฟมที่ลอยอยู่บนกาแฟ) ที่ผสมผสานมุมมองทางแฟชั่นไว้อีกด้วย

Dirty Coffee Parade

แฟล็กชิพสโตร์ สุขุมวิท 53 แห่งนี้ ได้คิดค้นสุดยอดเมนูรสเยี่ยมด้วยเซตเครื่องดื่ม Dirty Parade ผสมผสานช็อตเอสเพรสโซ่เข้มข้นเข้ากับนมเย็นที่เก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส และเพิ่มเอกลักษณ์ในแต่ละแก้วด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศผ่าน 10 เมนูเครื่องดื่ม ได้แก่ Dirty, Caramel Dirty, Hazelnut Dirty, Chai Dirty, Toffeenut Dirty, Thai Style Dirty, Bon Bon Dirty, Strawberry Dream Dirty, Mocha Dirty และ Matcha Espresso Dirty ในราคาแก้วละ 120 บาท

Red Wine Beef Pie
Chicken Truffle Pie

สำหรับเมนูเบเกอรี่เลิศรส Red Wine Beef Pie พายเนื้อสูตรพิเศษที่คัดสรรเนื้อชั้นดีหมักกับซอสไวน์แดง ห่อด้วยแป้งพายเนื้อบางกรอบ ช่วยชูรสชาติของไส้เนื้อหมักไวน์แดงได้เป็นอย่างดี (ราคา 180 บาท), Chicken Truffle Pie พายไก่ซอสทรัฟเฟิล มีรสชาตินุ่มละมุนจากตัวครีมซอส อกไก่ และเห็ดทรัฟเฟิล ในแป้งพายสูตรบางกรอบหอมหวานเต็มคำ (ราคา 180 บาท), Sausage Pie พายไส้กรอกที่ทำมาจากไส้กรอกหนังกรอบชิ้นโต รสชาติเข้มข้น เมื่อทานคู่กับแป้งพายทำให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว เหมาะสำหรับการทานเป็นอาหารว่างคู่กับกาแฟ (ราคา 90 บาท)

เมนูเบอร์เกอร์ทั้งเนื้อและหมูชั้นดีหมักกับเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะ เพิ่มรสชาติเข้มข้นด้วยซอสมายองเนส มะเขือเทศ และผักสลัด ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นในทุกคำ (ราคา 180 บาท), Egg Croissant Sandwich ครัวซองต์แซนด์วิชรังสรรค์จากไข่ต้มพร้อมปรุงรสด้วยมายองเนส และเครื่องเทศต่างๆ เสิร์ฟพร้อมผักสลัดและมะเขือเทศ (ราคา 150 บาท), Tuna Croissant Sandwich ทูน่าเนื้อแน่นปรุงรสด้วยซอสมายองเนส แครอท ถั่วลันเตา และเครื่องเทศ ทานคู่กับผักสลัดและมะเขือเทศ ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว (ราคา 150 บาท), Margherita Pizza แป้งพิซซ่าเนื้อนุ่มที่ชูรสด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ออริกาโน และใบเบซิล (ราคา 200 บาท) และเมนู 4 Cheese Pizza จากการรังสรรค์แป้งพิซซ่าสูตรพิเศษ เพิ่มความเข้มข้นด้วยซอสมะเขือเทศสูตรลับเฉพาะ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีส พาเมซานชีส ผักโขม และออริกาโน (ราคา 200 บาท)

นอกจากนี้ยังมีเมล็ดกาแฟคัดเฉพาะที่เสิร์ฟเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ได้แก่ Blend Black: 19-0915 เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากเชียงรายและเมล็ดกาแฟจากดอยช้างที่เสิร์ฟแบบคั่วเข้ม หอมกลิ่นบราวชูก้าและช็อกโกแลต รสสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานเหมือนรสชาติย่างของมาร์ชเมลโล่ และอีกหนึ่งไฮไลท์ของสาขานี้คือเซเลบริตี้บาร์จะมาโชว์รังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้เหล่าคอกาแฟได้รับชมกันทุกเดือน

สาวเวิร์คกิ้งวูแมน อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ เผยว่า “การดื่มกาแฟในทุกเช้าช่วยให้เราเริ่มต้นวันดีๆ ได้ด้วยความสดใสและกระปรี้กระเปร่า แก้วโปรดที่ดื่มประจำเลยจะเป็นเดอร์ตี้ แต่ถ้าวันที่ต้องการความหวานก็จะเลือกมอคค่าเดอร์ตี้แทน นอกจากกาแฟต้องอร่อยแล้ว ร้านต้องบรรยากาศดี นั่งสบาย ดีไซน์สวย มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ”

ดีไซน์เนอร์สาว ขนิษฐา ดรุณเนตร เล่าว่า “ปกติจะชอบไปคาเฟ่ที่ดีไซน์มีความมินิมอลและทันสมัย เพราะเราชอบแต่งตัวโทนสีนู้ด คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวก็จะทำให้ถ่ายรูปสวย กาแฟแก้วโปรดจะเป็นอเมริกาโน่ทานคู่กับแซนด์วิช หรือกาแฟเดอร์ตี้ กาแฟเป็นตัวช่วยในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ได้ดีมาก ดังนั้นในทุกวันจะขาดไม่ได้เลย”

สาวรักแฟชั่น วัจนา เจริญสมสมัย เผยว่า “ปกติถ้าไปคาเฟ่เราจะชอบร้านที่มีโซน Pet Friendly เพราะเราเป็นคนรักสัตว์ สำหรับเมนูที่ช่วงนี้ชอบมากก็จะเป็นพวกคาราเมลเดอร์ตี้เพราะรสชาติมีความเข้มข้นหวานกลมกล่อม ก่อนไปคาเฟ่ก็ต้องดูว่าร้านดีไซน์ยังไง โทนสีอะไร ก็จะเลือกสีชุดไม่ให้กลืนไปกับร้านเพื่อที่เวลาถ่ายรูปจะได้ดูสวย”

สาวสังคม ฐฤณณรัตน์ เดชะทวีวัฒน์ เล่าว่า “เมนูที่สั่งบ่อยๆ ก็จะเป็นมัทฉะเดอร์ตี้กับครัวซองต์ เพราะทานคู่กันแล้วลงตัวมาก ส่วนคาเฟ่ที่ชอบไปก็จะเลือกจากร้านที่ดีไซน์มีความโดดเด่นแปลกใหม่ บรรยากาศสบายๆ สามารถนั่งได้นานโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด คาเฟ่ส่วนใหญ่ก็จะมีมุมยอดนิยมอยู่แล้ว เราสามารถไปยืนโพสต์ได้เลย”

“C.P.S. COFFEE”

แฟล็กชิพสโตร์โฉมใหมที่สุขุมวิท 53 โทร. 082-993-5754

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง

Instagram: cpscoffee

Facebook: CPS Coffee

Line: @cpscoffee

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *