จับรถไฟสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี เที่ยวแรก ชั้น 2 ปรับอากาศ ในเวลาตี 5.45 น. ไปลงสถานีนครราชสีมา เวลา 10.01 น. เพื่อไปประเดิมวันแรกของการเปิดให้เข้าชมสวนดอกไม้ “เกษตร 100 ไร่ ครั้งที่ 6” ที่ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร 100 ไร่ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2563
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปชั้น 3 เหมือนที่เคยเพราะถูก แต่เนื่องจากเวลาไม่ได้ กว่าจะไปถึงก็บ่ายแล้ว ไม่มีเวลามากนัก เลยเป็นการขึ้นรถไฟปรับอากาศครั้งแรกของ MRBADBOY และเพิ่งรู้ว่าบนรถไฟ มีให้บริการอาหารว่างเป็น ขนมปังปลาทูน่าและน้ำดื่มที่เราสามารถเลือกได้ ชา กาแฟ น้ำอัดลม และน้ำเปล่า ก่อนที่จะมาเสริฟเซ็ตอาหารปุ้มปุ้ย คือ ไข่พะโล้และแกงไตปลา พร้อมข้าว ซึ่งถูกแพ็คแยกกันเป็นอย่างดี
ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงสถานีรถไฟนครราชสีมา หรือคนที่นี่เรียกว่า หัวรถไฟ MRBADBOY ก็ขอแชะรูปภาพของสถานีสักหน่อย
หลังจากนั้น MRBADBOY ก็ออกไปหาอาหารกลางวันกินแถวนั้น ก่อนที่จะนั่งรถตุ๊กตุ๊กในราคา 60 บาทไป โรงแรมฟอร์จูนราชพฤกษ์ ที่แต่เดิมเป็นโรงแรมราชพฤกษ์ ตามที่คนที่นี่บอก ไม่ไกลจากห้าง Terminal 21 สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากความสูงใหญ่ของมัน ซึ่งเป็นจุดหลักที่ต้องมาขึ้นรถสองแถวไปยังสถานที่ต่างๆ ของทริปนี้
เช็คอินเรียบร้อย ขึ้นไปห้องที่อยู่ชั้น 10 สูงสุดของโรงแรม ล้างหน้าล้างตา ชาร์ตมือถือเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางแล้ว โดยไปขึ้นรถสองแถวที่หน้าห้าง Terminal 21 ไปยังสวนเกษตร 100 ไร่ ในราคา 15 บาท บนถนนมิตรภาพ ตามเส้นทาง ราชสีมา-ปักธงชัย ไปทางเดียวกับสวนสัตว์โคราชแต่ถึงก่อน อยู่ฝั่งขาไป
รถจอดหน้าทางเข้า ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร 100 ไร่ และขอแวะดื่มน้ำเย็นๆ ก่อน เนื่องจากแดดแรงมากตัดกับลมเย็นๆ หน่อย จัดไป อเมริกาโนน้ำผึ้งและขนมปังโฮวีดกับเมล็ดธัญพิชต่างๆ ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ ห้องน้ำที่นี่สะอาดดี
ได้เวลาลุยชมสวนดอกไม้และอยากถ่ายรูปแล้ว MRBADBOY เดินลอดซุ้มอุโมงค์ดอกไม้ในกระถาง ทางเดินส่วนใหญ่เป็นดิน
ออกจากอุโมงค์มาแล้ว จะเจอจุดเช็คอินที่ป้าย “ทานตะวันหลังนา @ ร้อยไร่” กับรถแทรกเตอร์จอดอยู่เป็นพร็อพให้ขึ้นไปนั่งถ่ายรูปได้
จะเจอ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน กับรูปปั้นไดโนเสาร์
เดินอีกนิด ก็จะเจอซุ้มอุโมงค์ฟักแฟงยักษ์
ผ่านซุ้มขายสินค้าวิสาหกิจชุมชมและสินค้าออร์แกนิคจากไร่ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม และโผล่มาเจอลานดอกไม้ กับทางเดินตรงกลางที่ปูผ้าสีเขียวไปยังจุดเช็คอินป้าย “100 ไร่” ว่ามาถึงแล้ว
บริเวณใกล้ๆ ก็มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายรูปกับมาสคอตแพะสีน้ำตาล พร้อมกล่องจักสานรับบริจาคใบใหญ่สไตล์อีสาน
ได้จุดเช็คอินแล้ว ที่มีนักท่องเที่ยวคอยถ่ายรูปตลอดเวลา แต่ไม่มากนัก MRBADBOY ได้เดินไปหาจุดถ่ายรูปต่างๆ โดยเริ่มจากทุ่งคอสมอสก่อนเลย ที่มีทั้งสีบานเย็น สีชมพู และสีขาว วางสลับกันไป
นอกจากถ่ายรูปบริเวณโดยรอบของทุ่งคอสมอสแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเข้าไปถ่ายข้างในได้อีกด้วย โดยเดินช่องว่างระหว่างต้น บางจุดก็โดนเหยียบก็มี MRBADBOY ขำในใจ เมื่อมีบางคนบ่นเรื่องนี้ แต่ขณะที่ตัวเองยังยืนอยู่ท่ามกลางทุ่ง
ทุ่งคอสมอส มีพร็อพเป็นเก้าอี้ไม้ไผ่ประดับด้วยผ้าม่านไว้หลายจุด ให้นั่งถ่ายรูปเป็นคู่ๆ ท่ามกลางสีสันของดอกคอสมอส
ติดกันแบบสลับสีได้สวยงาม คือทุ่งดอกดาวกระจาย จะมีพร็อพเป็นแท่งดอกไม้ manmade กระจายตามจุดต่างๆ
ใกล้กันนั้น เป็นทุ่งดอกทานตะวัน ซึ่งดอกส่วนใหญ่ก็หน้าคว่ำแล้ว เนื่องจากเป็นเวลาบ่ายๆ แล้ว แต่ก็ยังมีบางดอกชูให้ถ่ายรูปบ้าง
บางพื้นที่ ดอกทานตะวัน ก็ยังไม่บาน ยังเป็นตูมๆ อยู่เลย
ข้างๆ ทุ่งคอสมอส จะเป็นฟาร์มแพะ ที่นักท่องเที่ยวกำลังให้อาหารกันสนุกสนาน
ใกล้ๆ กันจะมีนกมาคอว์ 2 ตัว ไว้บริการให้ถ่ายรูปได้ด้วย กำลังคลอเคลียกันอย่างน่ารักน่าชัง
ขากลับ นั่งรถสองแถวคันเดิม มาลงที่แยกปักธงชัย เพื่อจะต่อรถสองแถวอีกคันไป ตลาดเซฟวัน (Save One Market) ที่ว่าใหญ่ที่สุดในเมืองโคราช มีร้านและแผงอาหารมากมาย ที่น่าสนใจและอร่อย คนเยอะมาก
เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2564 เวลา 08.00-17.00 น.
ศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยทางการเกษตร 100 ไร่
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
CALL: 0-4400-9009 ต่อ 2517, 08-1975-5606, 08-1592-6658