มาเที่ยวเมืองซัปโปโร (Sapporo) ช่วงในเดือนสิงหาคม ตรงกับช่วงฤดูร้อน ร้อนจริงๆ นอกจากเที่ยวในเมืองสักพัก MRBADBOY อยากจะหาที่อื่นๆ มีอากาศธรรมชาติสักหน่อย เลยมาดูแผนที่และแหล่งท่องเที่ยว หน้าทางเข้าตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office) แถวย่านสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) และพบว่า จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ (Hitsujigaoka Observation Hill) น่าสนใจดี และไม่ไกลนัก
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_162346-1-1024x576.jpg)
ไม่รอช้า MRBADBOY รีบเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Toho Subway Line ที่สถานี Odori เพียง 6 สถานีก็มาถึง Fukuzumi เมื่อออกจากตัวรถไฟแล้วก็เดินมาที่ชานชาลารถบัส Hokkaido Chuo สาย 84 ได้เลย เพื่อจะไปลงที่ป้าย Hitsujigaoka Tenbodai สุดสายพอดี การเดินทางครั้งนี้ ค่อนข้างง่ายและสะดวก เพียงซื้อตั๋วครั้งเดียวสำหรับรถไฟและรถบัสในราคา 380 เยนที่เครื่องอัตโนมัติได้เลย และไม่ต้องออกจากสถานีรถไฟด้วย
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_163241-1-1024x576.jpg)
ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ก็มาถึงปลายทางของเราคือ จุดชมวิวฮิสึจิงาโอกะ ที่เรามองออกไปผ่านหน้าต่างรถบัส เห็นแถวยาวของนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังรอถ่ายรูปกับรูปปั้นของศาสตราจารย์ วิลเลียม เอส คลาร์ก (Prof William S. Clark) ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮอกไกโด กับวาทะของเขาที่แกะไว้บนฐานว่า “Boys Be Ambitious” ซึ่งแปลได้หลายอย่างเช่น “เด็กๆ ต้องคิดให้ใหญ่ไม่คิดเล็ก”, “เด็กๆ ต้องมีความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่” หรือ “เด็กๆ จงทะเยอทะยาน”
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_163349-1024x576.jpg)
อากาศที่นี่ค่อนข้างดีเพราะตั้งอยู่บนที่สูง ก่อนที่จะเดินไปดูสถานที่ต่างๆ ต้องเสียค่าเข้าชมด้วยนะ 500 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ300 เยนสำหรับเด็ก
ตอนแรกว่าจะต่อแถวถ่ายรูปด้วยแต่ไม่มีเวลามากนัก เลยรอจังหวะถ่ายรูปปั้นของท่านศาสตราจารย์ผู้นั้นกับวิวด้านหลังที่เป็นทุ่งหญ้าและเป็นเมืองซัปโปโรและซัปโปโรโดม (Sapporo Dome) แบบพาโนราม่า ไม่ไกลนักทางด้านชวามือของรูปปั้นเป็นฟาร์มแกะ ซึ่ง MRBADBOY ได้ลองเสิร์ชข้อมูลจากอากู๋แล้วพบว่า ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่เคยเป็นศูนย์ทดลองทางเกษตรกรรมฮอกไกโด (Hokkaido National Agricultural Experiment Station) และศูนย์ขยายพันธุ์แกะทสึคิซามุ (Tsukisamu Sheep Breeding Station)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8180269-1024x768.jpg)
ส่วนด้านซ้ายของรูปปั้นนั้น มี 2 รูปปั้นครึ่งตัวของนักแต่งเพลงชื่อดัง คุระโนะสุเกะ ฮามากูชิ (Kuraosuke Hamaguchi) และนักร้องยูจิโร่ อิชิฮาระ (Yujiro Ishihara) ผู้ซึ่งได้ถูกขนามนามว่า เอลวิสของประเทศญี่ปุ่น และเป็นนักแสดงด้วย พร้อมกับโน๊ตและเนื้อเพลง “Koi-no-Machi Sapporo” หรือแปลเป็นไทยว่า “ซัปโปโร เมืองแห่งความรัก” ที่เคยโด่งดังในปี 1972
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/B-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8180279-1024x768.jpg)
ถัดไปเป็นกำแพงที่ก่ออิฐขึ้มาสูงประมาณระดับเอว ทำขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ของกำเนิดทีมเบสบอล Sapporo Nippon-Ham Fighters มีลายพิมพ์มือของผู้เล่นทั้ง 28 คน รวมทั้งผู้จัดการทีมและโค้ช ในปี 2004
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_165616-1024x576.jpg)
หลังจากนั้น MRBADBOY เดินกลับมาทางฟาร์แกะ และได้เห็นบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งชื่อ ฮิซึจิกาโอกะฮอตโตะอาชิยุ (Hitsujigaoka Hot Ashiyu) เป็นที่ๆ สำหรับสปาเท้า ดีเลย ถือโอกาสไปนั่งพักและออนเซ็นเท้าสักหน่อย
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8180281-1024x768.jpg)
ใกล้ๆ กันเป็นโบส์ถของท่านศาสตราจารย์คลาร์ก Clark Chapel ที่เคยใช้จัดพิธีงานแต่งงาน แบบว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ติดกันเป็นอาคารไม้ลักษณะคล้ายๆ กัน ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival Museum) ซึ่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เปิดประตูเข้าไปจะเจอตัวสโนว์มาสคอตมากมายในตู้กระจก และภาพแกะสลักน้ำแข็ง
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/thai-820x1024.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/1587011565604-1024x1024.jpg)
ขึ้นไปชั้นสอง MRBADBOY ได้ตื่นเต้นกับแบบจำลองของรูปปั้นหิมะ pavilion ของประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย พร้อมกับภาพเก่าๆ ขาวดำและสี บนกำแพงหลังแบบจำลองเหล่านั้น นอกจาก pavilion แล้ว แบบจำลองของการ์ตูนญี่ปุ่น เช่น หนูน้อยจอมซ่า มารุโกะจัง (Chibi Maruko-chan) และ วันพีช (One Piece)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/1587010467269-1024x1024.jpg)
นอกจากนี้ ยังมีโปสเตอร์ที่ออกแบบสวยๆ ของ Sapporo Snow Festival ในปีต่างๆ ที่ติดอยู่บนกำแพงโดยรอบฮอลล์
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_172414-1024x576.jpg)
ยังมีของที่ระลึกที่ทำออกมาสำหรับเทศกาลหิมะนี้ด้วย เช่น เข็มกลัดสัญลักษณ์ เข็มหนีบเนคไท เหรียญรางวัล แสตมป์ การ์ดโทรศัพท์สัญลักษณ์ พวงกุญแจ และแผ่นพับ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_173557-1024x576.jpg)
ถัดไปอีกคือ Rest House เป็นภัตตาคารสไตล์เจงกิสข่าน เช่นเนื้อแกะย่างบาร์บีคิว และอาหารตามสั่งอื่นๆ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190818_173644-1024x576.jpg)
ใกล้ๆ กันคือ Austrian House เป็นร้านขายของที่ระลึก และสินค้าพื้นเมืองฮอกไกโด แต่เดิมเป็นศาลาของประเทศออสเตรียระหว่างงานกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวเมื่อปี 1972
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8180286-1024x768.jpg)
อาคารสุดท้ายคือ Sapporo Blanc Birch Chapel ที่ให้บริการจัดพิธีแต่งงาน โดยรอบตกแต่งไปด้วยดอกเบิชสีขาวและดอกลาเวนเดอร์ พร้อมกับแกะขาว ทำให้นึกถึงฉากแต่งงานที่โรแมนติคในภาพยนตร์
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8180288-768x1024.jpg)
ก่อนจะออกจากสถานที่นี้ มี Clark’s Departure Bell ที่ไว้เรียกใช้บริการรถยนตร์ กลับเข้าเมือง