วันที่สอง ณ เมืองโอตารุ จุดหมายแรกของเราเช้านี้ คือ ตลาดเช้ารินยู (Rinyu Morning Market) เราใช้เวลาเดินกันยาวๆ ไป และถ่ายรูปไปเรื่อยๆ และได้พบเห็นอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้มากมาย ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมและยกย่อง มากไปกว่านี้ ทำให้เราได้รับรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์อีกด้วย จากแผ่นป้ายข้อมูลที่ได้ถูกทำไว้อย่างชัดเจน
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_085024-1024x576.jpg)
ก่อนที่จะเริ่มต้นเดิน MRBADBOY ได้ยืนอ่านป้ายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองโอตารุสักเล็กน้อย เมืองโอตารุได้ประกาศตามพระราชกฤษฎีกาที่อนุรักษ์และปรับปรุงภูมิประเทศทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ทำให้เมืองนี้เป็น เขตชมวิวทางประวัติศาสตร์ เขตนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 15 พื้นที่ แต่ละพื้นที่มีมาตรฐานของมันเองและอยู่ในการพิจารณาของความสวยงามทางธรรมชาติของพื้นที่เมืองโอตารุ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_084717-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_085141-1024x576.jpg)
เดินไปสักพัก ก็เจอร้านขายเหล้า Tanaka Brewery Shop ที่ถูกสร้างด้วยไม้ทั้งหลังขึ้นในปี 1927 เป็นหนึ่งของร้านสาเกสไตล์ญี่ปุ่นในยุคสมัยโชวะตอนต้นที่เหลืออยู่ไม่มากทุกวันนี้ เนื่องจาก โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับเมืองซัปโปโรด้วย ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยว่าเมืองโอตารุจะเต็มไปด้วยโกดังมากมาย ซึ่งปัจจุบันนี้ ได้ถูกนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบของ live theatre and café ภายใต้ชื่อว่า Otaru Goldstone หรือ Press Café ร้านคาเฟและร้านอาหารสไตล์เรโทร
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_085211-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_100031-2-1024x576.jpg)
เดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ เจอสวนสาธารณะริมคลอง ที่ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนความจำของอ่าวเล็กๆ Funairima ที่ถูกใช้เฉพาะบริษัทธุรกิจขนส่งสินค้า Nihon Yusen Company สาขาโอตารุ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้กลับกลายเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมสำคัญระดับชาติไปแล้ว
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_085315-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_093631-1-1024x576.jpg)
ร้านไอศกรีมที่ดูแปลกตาดี เพราะว่ากำแพงด้านนอกถูกแขวนห้อยไปด้วยแผ่นป้ายไม้กับข้อความของลูกค้าที่มาใช้บริการ แล้วเราก็มาถึงตลาดเช้ารินยู ซึ่งเป็นตลาดปลาไม่ใหญ่นัก ที่นี่ เราทานอาหารเช้าที่ร้านหนึ่ง MRBADBOY เลือกข้าวชุดเทมปุระราคา 850 เยน ง่ายๆ เบาๆ ก่อนที่เดินย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อจะไปเดินเที่ยวอีกฝั่งหนึ่ง บนถนนช้อปปิ้งซาคาอิมาจิโดริ (Sakaimachi Dori)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_110902-576x1024.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_111521-576x1024.jpg)
หลังจากเดินมาถึงถนนหลักจูโอโดริ (Chuo Dori) แล้วเลี้ยวขวาไปทางสถานีโอตารุ ก่อนที่เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนช้อปปิ้งมิยาโกะ (Miyako Dori) ที่ประดับไปด้วยพู่ห้อยสีสันสวยงาม มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเกม และอื่น รวมถึงร้านเช่าจักรยานด้วย เมื่อเดินทะลุถึงถนนใหญ่อีกด้าน ก็เลี้ยวซ้ายตรงไปยังอาคารเก่าแก่ที่มีความงามทางสถาปัตยกรรม คืออดีตธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan) พวกเราไม่ลังเลที่จะเข้าไปชม เพราะว่างานนี้ชมฟรี
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_112714-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_112844-1024x576.jpg)
ธนาคารเก่าแก่นี้ ได้ก่อสร้างด้วยอิฐในปี 1912 โดยสถาปนิก Kingo Tatsuno ผู้ซึ่งได้ออกแบบสำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวและอาคารอิฐแดงของสถานีโตเกียวด้วยเหมือนกัน ภายในอาคารเก่าแก่นี้ เราก็รับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ การก่อสร้าง สัญลักษณ์ที่พิมพ์บนธนบัตร ตัวธนบัตรและเหรียญในยุคต่างๆ และที่น่าสนใจ คือนักท่องเที่ยวแหย่มือลงไปในกล่องใสและยกธนบัตรจริง 100 ล้านเยน น้ำหนัก 10 กิโลกรัม พร้อมกับเป็นจุดให้ถ่ายรูปด้วย ว้าว MRBADBOY ได้จับเงิน 100 ล้านเยนด้วยนะ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_115115-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8150141-1024x768.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_115603-1024x576.jpg)
ออกจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น เลี้ยวขวาและเดินไปตามถนนจะเจออาคารเก่าแก่ของธนาคารไดอิชิ (Dai-Ichi Kangyo Bank) ที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กขึ้นในปี 1924ปัจจุบันได้ถูกใช้เป็นโรงงานเสื้อผ้าไปแล้ว แต่ชั้นสองยังคงเก็บความทรงจำในอดีตไว้ เดินต่อไปสักพัก ก็มาถึงถนนช้อปปิ้งซาคาอิมาจิโดริ เราจะเจอร้านค้าส่งนาฬิกาเก่าแก่ Iwanaga Clock Store ระหว่างปี 1897-1906 MRBADBOY ได้เห็นรูปแกะสลักปลาคาร์ฟในตำนานสองตัวคนละมุมบนหลังคา หรือที่เรียกว่า shachihoko ที่มีหัวเป็นเสือและตัวเป็นปลา ที่เชื่อกันว่าไว้ใช้เรียกฝน นอกจากนี้ ยังมีบริษัทข้าวที่สร้างก่อนปี 1909 หรือในสมัยเมจิ โกดังปลาเฮอริ่ง Kimura Warehouse ในปี 1891และบริษัทค้าข้าวที่มีชื่อเสียงและตัวแทนจำหน่าย Kyosei ในปี 1891 ปัจจุบันนี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่ เป็นร้านขายกล่องดนตรี
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_120138-576x1024.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_120452-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_120425-1024x576.jpg)
สองข้างทางถนนซาคาอิมาจิโดริ น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก อาคารบ้านเรือนยังคงอนุรักษ์และปรับปรุงให้มีชีวิตใหม่ รวมทั้งอาคารทันสมัยในยุคปัจจุบันนี้ ทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟรูปแบบต่างๆ ร้านขายของที่ระลึก อาร์ตแกลเลอรี่ ศิลปะบนแก้วเช่น Italian Modern Art Glass, Lavender & Poppy ที่แก้วสามารถเปลี่ยนสีเมื่อใส่น้ำร้อนและน้ำเย็น และ Kitaichi Sangokan ขายภาชนะที่ทำจากแก้ว ที่นี่ MRBADBOY ได้เข้าไปในร้านขนมคิตาคาโร่ (Kitakaro) ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และได้ลิ้มลองชูว์ครีม (choux cream) ชิ้นใหญ่ แป้งบาง ไส้ทะลัก อร่อยจริงๆ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8150154-768x1024.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_121430-1024x576.jpg)
ร้านเลอทาโอะ (LeTao) ซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา เป็นร้านดังออริจินัลสาขาโอตารุ ใกล้แยก Marchen Square ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Orgal Museum) ชั้นล่างของร้านชีสเค้กนี้จำหน่ายเมนูขนมหวานและเค้กมากมาย แต่ส่วนคาเฟ่อยู่ชั้นสอง เนื่องจากเป็นร้านดัง ดังนั้นเราก็ต้องรอคิวพอสมควร MRBADBOY ได้สั่งเค้กหนึ่งชิ้นแต่จำชื่อไม่ได้ พร้อมกับชาผลไม้ร้อนๆ หนึ่งกา
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_132639-576x1024.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_124957-1024x576.jpg)
หลังจากอิ่มเอมกับชีสเค้กแล้ว MRBADBOY ก็ได้เดินข้ามไปร้านจำหน่ายกล่องดนตรีและได้เจอรุ่นพิเศษสำหรับ ยูซูรุ ฮานิว Yuzuru Hanyu เจ้าชายแห่งลานสเก็ตน้ำแข็งชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันเขาเป็นนักสเก็ตลีลาชายอันดับหนึ่งของโลก และนักสเก็ตลีลาจากเอเชียคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก ข้างๆ อาคารนี้ มีหอนาฬิกาไอน้ำ (steam clock) ที่จะส่งเสียงบอกเวลาทุกๆ 15 นาที มันได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำเครื่องบอกเวลาชาวแคนาเดียน Raymond L Saunders ในปี 1977
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_133032-1024x576.jpg)
ที่สุดท้ายสำหรับวันนี้ คือการนั่งกระเช้าไฟฟ้า (ropeway) ขึ้นไปบนเขาเทนกุยามะ (Mt Tenguyama) ในราคา 1140 เยนไปกลับ เพื่อมองเห็นวิว 360 องศา ของเมืองโอตารุ ท่าเรือ และอ่าวอิชิการิ (Ishikari Bay) ทะเลญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม ที่นี่เป็น 1 ใน 3 ทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของฮอกไกโด
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_173838-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8150162-1024x768.jpg)
หลังจากที่ MRBADBOY ได้ทึ่งกับวิวบนหอสังเกตการณ์บนดาดฟ้าโดยรอบแล้ว ก็ไปดูวิวอีกสองจุด ระหว่างทางเดินเทรลสั้นๆ เป็นวงกลม ที่เราต้องผ่านรูปปั้นหัวเทนกุและศาลเจ้า ขณะที่เดินอยู่ในป่า ได้สังเกตเห็นมีร่องทางยาวขนานกับทางเดิน จริงๆ แล้วมันคือ ช่องทางสำหรับรถเลื่อนหิมะ เมื่อออกมาแล้ว ก็เข้าไปดูตัวชิปมังก์ ซึ่งเป็นกระรอกชนิดหนึ่งในกรง
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/P8150169-1024x768.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2020/04/20190815_184217-1024x576.jpg)
เรารอดูวิวกลางคืนที่มีแสงไฟระยิบระยับของเมืองสักพัก ก็เตรียมตัวเดินทางกลับเข้าเมือง และหาอาหารเย็นของเรากินก่อนเข้าที่พัก แต่ก็ไม่ลืมที่จะซดเบียร์คราฟฟรีๆ อีกหนึ่งแก้วก่อนนอน