“แอนนา เสือ” โดนพระเอกตามจีบ FC ทัก เดี๋ยวนี้หยิ่ง

นางงามยอดนักสู้ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” Miss Universe Thailand 2022 เปิดเผยเรื่องราวมากมายที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน หลายคนเม้าท์ว่ามีพระเอกหนุ่มตามจีบ และล่าสุดกับประเด็นเจอคนทักว่าพักหลังดูหยิ่ง และอีกหลายเรื่อง ในรายการ “แย่งซีน” ทุกวันศุกร์ เวลา 19.30 น. ทางยูทูบช่อง 8 และทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.40 ทางช่อง 8 กดเลข 27

เรื่องดรามากับประเด็นนางงามอีกเวที อยากให้ออกไปเป็นลุคนางเอกหรือเปล่า?

ไม่ๆเลย ถ้าเล่นบทนางเอกหนูเล่นได้ดีกว่านี้ค่ะ (หัวเราะ) เอาจริงๆ ด้วยความที่ทุกคนไม่เคยเห็นเรามุมนี้ แล้วเราก็ระบายออกไปด้วยความที่ไม่ไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย ก็กลายเป็นว่าทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โต แอนนาเสียใจมาก

แม่ปุ้ยเขาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนมากนะคะ?

สุดท้ายแอนนามองว่าแม่ปุ้ยเขาอาจจะมองในแง่ของนางงาม และการเป็นผู้หญิงคนนึงค่ะ มันรู้สึกแย่เวลาเราโดนคนที่อยู่ในอาชีพเดียวกันมาพูดแบบนี้ อารมณ์แบบแม่เป็นห่วงลูก พี่เลี้ยงเองก็เป็นห่วงเหมือนกัน แม่โทรมาถามเหมือนกัน เราก็อธิบาย หนูไม่ได้คิดอะไรเลย มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ก็คิดที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดดรามา คนที่เสียใจหนักกว่าเรา น่าจะเป็นเขาหรือเปล่า แต่แม่ปุ้ยไม่ได้โพสต์ด่าอย่างนั้นนะ ที่เขาโพสต์มันเป็นสิ่งนึงที่ไม่ใช่แค่คนอื่นหรือคนที่อยู่ในดรามาเห็น แล้วรู้สึกว่าเอ่อมันก็จริง  แต่มันเป็นทุกคนเลยที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ทุกคนทีได้เห็นโพสต์นี้จะได้รู้เลยว่า สิ่งที่เราควรให้เกียรติมากที่สุดก็คือ คนที่ทำงานอาชีพเดียวกัน หรือการที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันประมาณนี้ค่ะ

อยากให้มันจบแบบไหนคะ?

ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกกำลังใจเลยที่ส่งเข้ามา แต่อยากจะบอกทุกคนว่าดรามาทุกอย่าง มันเกิดจากการที่เรา 1.อาจจะไตร่ตรองไม่ดีก่อน 2.มนุษย์ทุกคนทำผิดพลาดได้ทั้งนั้น สุดท้ายมันก็คือการให้อภัยกัน ก็อยากให้ทุกคนมีหลัก มีเหตุ มีผลในการโพสต์ การที่จะพาดพิงถึงใคร และสุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจเลย

ทำไมกล้าเอาอนาคตมาแลกกับการประกวดนางงาม ใครจะรู้ว่าจะมง?

การประกวดนางงามของแอนนาเริ่มมาตั้งแต่ม.5 แล้วเราได้เข้าประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ มีพี่เลี้ยงผ่านการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่กำลังซ้อมอยู่และเขาก็มาทาบไทม์เรา เขาก็แนะนำเราไปรู้จักกับพี่เลี้ยงอีกคน และเขาได้บอกเรากลับมาว่าเป้าหมายสำคัญในการหาเด็กไปประกวดที่สูงสุดคืออยากให้เด็กได้เป็น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะเป็นเวทีที่ค่อนข้างจะยิ่งใหญ่สำหรับเขา หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆหลังเรียนจบ แอนนาเรียนจบการท่องเที่ยวและการโรงแรมมา และมันเป็นช่วงโควิดพอดี พอเรียนจบและมันหางานค่อนข้างยาก ช่วงว่างๆนั้นเราก็เลยเดินสายประกวดต่อ จนมีโอกาสมามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตอนนั้นทุกคนพร้อมละ สปอนเซอร์พร้อม ผู้ใหญ่พร้อม เหลือแค่เราเองที่จะพร้อมไหม ซึ่งตอนนั้นเราติดอยู่กับงานที่เราทำ แต่จริงๆมันเป็นสิ่งที่เราวางเป้าหมายไว้นานมากแล้วกับพี่เลี้ยงของเรา ถ้าแอนนาไม่ทำตอนนี้และแอนนาจะทำตอนไหน เหมือนเราอยากจะสานฝันตัวเอง ของพี่เลี้ยงของทุกคนที่คอยดูแลเรามา สำหรับงานประจำ ถ้าเราไม่เข้ารอบเรายังมีโอกาสกลับมาทำอีกได้ เพราะผู้ใหญ่เขาเข้าใจเรา แต่ถ้าการประกวดครั้งนี้แอนนาไม่เอา ไม่รู้ว่าโอกาสมันจะมาอีกเมื่อไร

เห็นว่าเป็นสายมูด้วย ถึงกับต้องไปดูดวงก่อนประกวด?

ก็ชุดแดงที่ประกวดตอนไฟนอลนั้นแหละค่ะ มาจากหมอดู ก็ส่วนนึงแล้วกันจะบอกว่าหมอดูหมดเลยก็คือไม่ได้(หัวเราะ) ตอนนั้นหมอดูแนะนำมาว่าเวที MUT เขาบอกมาว่ามีทั้งหมด2สี คือสีน้ำเงินกับสีแดง ให้ไปเลือกเองระหว่างรอบพรีลิมกับไฟนอล จะเอาสีอะไร ซึ่งส่วนตัวเราชอบสีแดง มีช่วงนึงก่อนประกวดถ่ายเล่นๆกัน แล้วทางปากแดง ลุคเจิสมากเลย ก็เลยคิดกันนั้น สีแดงเป็นชุดไฟนอล น้ำเงินรอบพรีลิม ก็เลยวางไว้แบบนั้นสรุปว่ามงค่ะ แล้วเชื่อไหมที่ไอคอนสยามในปีของพี่อแมนด้า ที่เขาได้มงเขาก็ใส่สีแดงเหมือนกัน ก็เลยมีคนบอกว่าหรือเจ้าที่ชอบสีแดง แล้วเราชอบด้วย เจ้าที่เจ้าทางหรือเจ้าที่เวทีคะ? ก็ทั้งเจ้าที่เจ้าทาง แล้วเจ้าที่เวทีด้วยสิก็สะกดจิตก็กลายเป็นว่าเรามง

ซุ่มออกกำลังกายหนัก เพราะเตรียมตัวเป็นนางเอกหรือเปล่า?

ไม่ใช่ เลือกได้เหรอคะปกติ(หัวเราะ) มันเป็นโอกาสที่เข้ามามากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็ไม่ได้เลือกนะสุดท้ายแล้วเวลาแอนนาทำอะไรก็ทำเต็มที่ เลยอยากที่จะดูให้ละเอียดก่อนมันเหมาะกับเราไหมอะไรอย่างไร เราก็จะทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่ มันไม่ใช่ใช้คำว่าเลือกหรอก ใช้คำว่าไตร่ตรองมากกว่า

มันเหมือนเป็นการชิงดีชิงเด่นกันหรือเปล่า?

แอนนาว่าเรารู้จักเวทีของเราดีที่สุด เรารู้บริบถเวทีเราอย่างไร มันไม่มีอะไรจะเหมือนกันไปทุกเรื่อง หรือแตกต่างกันไปซะทุกเรื่อง สุดท้ายเวทีนางงามคือการได้เชิดชูเกียรติผู้หญิงคนนึง อันนี้เรามีเป้าหมายเดียวกัน สุดท้ายคาแร็กเตอร์ในการเลือกนางงามอาจจะต่างกันก็ได้ คนเลยจะไปโฟกัสตรงนั้น แล้วก็เอาไปเปรียบเทียบคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนว่า คนนั้นดีกว่า คนนี่ดีกว่า แต่สุดท้ายมันไม่มีมาตรฐานว่า แบบไหนที่ดีที่สุด

สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

ไม่มีใครเลยค่ะ มีแต่ตัวเอง ตอนนี้รักตัวเองค่ะ

เขาว่ามีพระเอกช่องนึงตามจีบอยู่จริงไหม?

คิดอยู่ ใครเนี่ย(หัวเราะ) ไม่มี เป็นไปได้อย่างไรสวยขนาดนี้? หนูว่าคนอื่นเขากลัวหนูคิดว่าหนูดูเข้าถึงยากมั้งคะ

มีคนเขาเม้าท์มา แอนนาเดี๋ยวนี้หยิ่งไม่เหมือนเดิม?

แล้วพี่รักหนูไหมคะ(ยิ้ม) ไม่หรอกมันอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า ถามว่าตอนนี้แอนนายังรู้สึกเหมือนเดิมกับทุกคนไหม แอนนายังรู้สึกเหมือนเดิม แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่มันมีมากขึ้นแล้วกัน มันอาจจะทำให้ทุกคนมองว่าเราปรับตัวเปลี่ยนไปหรือเปล่า เพราะว่าหลังกล้องแอนนาก็ยังเหมือนเดิม เพื่อนแอนนาก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิมค่ะ เหมือนเดิมเลยค่ะ และยังสังสรรค์ได้นะคะ(ยิ้ม)

ชีวิตมันมีขึ้นสุดลงสุด เรามองเรื่องนี้อย่างไร?

มองเหมือนกันเลยพี่แพรรี่ ตั้งแต่แอนนารับมงกุฎ และปฏิบัติหน้าที่มาเรื่อยๆ จนถึงวันที่เราลงมาจากสนามต่างประเทศ มีวันนึงที่เรานั่งร้องไห้ ตอนที่จะเปลี่ยนเครื่องมาที่ไทย ร้องกับพี่เลี้ยงเลยค่ะ แล้วพูดคำเดียวเลยว่า หนูทำอะไรต่อดี เพราะว่าหนูรู้เลยว่า หลายอย่างที่เราได้มาชั่วข้ามคืน มันเป็นสิ่งเหมือนพลุแล้วกัน สักวันนึงมันต้องลงมาเรื่อยๆ ทุกคนวันนี้ชื่นชม อวยเรา จำว่าเราคือแอนนาเสือได้ วันนึงที่มีคนใหม่เข้ามาเรื่อยๆ คนก็จะไปโฟกัสกับคนใหม่เรื่อยๆ วัฏจักรมันเป็นแบบนี้ล่ะกัน  แอนนาเลยพยายามหาช่องทางอื่นๆที่ทำให้ตัวเองเป็นเหมือนว่าว พลุดังก็หล่น แต่ว่าวมันยังลอยไปเรื่อยๆ มันไม่เทียบเท่าพลุ แต่แอนนาว่ามันยั่งยืนกว่า

แสดงว่าแอนนาวางแผนตัวเองไว้ตลอดหาลู่หาทาง?

ใช่ค่ะ อย่างที่บอกเรายังไปได้ไกลกว่านี้ แค่อายุ 24-25 ปีเอง มันมีอะไรต่างๆที่รอเราอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่รู้มันคืออะไร มันก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะค้นหามันต่อไปเรื่อยๆค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *