“แสงกระสือ 2” จาก “ผี” สู่เวอร์ชั่น “สัตว์ประหลาด”

“ดี้ ปภังกร ปุณจันทรักษ์” ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเป็นครั้งแรก “แสงกระสือ 2” หลังจากทำหนังสั้นมาตลอดและส่งเข้าประกวดเทศกาลหนังต่างๆ ขณะที่อยู่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

“ดี้ ปภังกร” เล่าวว่า “จริงๆ ผมเริ่มจากการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณามาก่อนหลายปี และไปเรียนต่อที่นิวยอร์ค ก็เริ่มทำหนังสั้นมาเรื่อยๆ และเริ่มต้นที่จะส่ง Film Festival ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ก็เลยกลายเป็นการสะสมประสบการณ์การทำหนังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาไทย หนังยาวค่อนข้างยากกว่าเพราะว่า Process ค่อนข้างนานและก็งาน Detail ในส่วนที่เรามองไม่เห็นตั้งแต่แรกค่อนข้างเยอะและก็ ด้วยความที่ตัวเองชอบ Detail ต่างๆ นาๆ เลยทำให้หนังค่อนข้างเหนื่อยกับทีมงานมากๆ”

กดดันมั้ยที่ภาคแรกประสบความสำเร็จ

“กดดัน ตอนแรก เพราะว่า เอาจริงๆ ตัวผมไม่ได้เป็นแฟนหนังผีเลย ทางวิศิษแชร์มาว่า มันคือสัตว์นะ ไม่ใช่ผีสักทีเดียว พอมันเป็นสัตว์ประหลาด มันท้าทายมากถ้าจะได้ทำ ก็เลยตอบตกลง”

ความรักระหว่างสุภาพสตรีที่ถูกตีตราว่าเป็น สัตว์ประหลาด กับผู้ชายที่ถูกเพื่อนๆ เรียกว่าตัวประหลาด

“เริ่มต้น เราก็มี Mindset ของเรา แต่ว่า ปกติแล้วทุกวันเราอาศัยอยู่บนความแตกต่างและการยอมรับซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นในการ Respect สิ่งต่างๆ บนโลกนี้ เราต้องให้เกียรติ เราต้องเห็นคุณค่าทุกความรัก ถึงแม้เราแตกต่างและก็มีสิทธิ์ที่จะรักกันได้”

พูดถึงนักสดงนำ นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรีย์, เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, เอม ภูมิภัทร ถาวรศิริ

“เริ่มต้นจากนิ้งก่อนละกัน ตอนแรกเราค่อนข้างหานักแสดงค่อนข้างเยอะ เรา cast กันเยอะมาก อย่างนิ้ง เราพอจะรู้ background ของน้องว่าเขามีเนื้องอกในสมอง ผมก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า เฮ้ย ตัวเขาเคยมีสิ่งที่ไม่ต้องการในชีวิตและอยากจะเอามันออก มันก็เหมือนกระสือในคาแรคเตอร์ที่ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นกระสือ เราก็เลยคิดว่านิ้งน่าจะทำตรงนี้ได้ดีมาก เจเจ สำหรับคาแรคเตอร์ ค่อนข้างยาก ทั้งคาแรคเตอร์ของบท คือเป็นเด็กที่เกิดมามีความผิดปกติทางยีนคือเป็นเด็กเผือก ซึ่งแน่นอนการเป็นเด็กเผือกสัก 40-50 ปีที่แล้ว ต้องโดนบูลลี่ แต่ในขณะเดียวกันในความเป็นเผือก เขาต้องเป็นเด็กที่ดู Loser มาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าในคาแรคเตอร์นี้เขาต้องมีเสน่ห์ด้วยบางอย่างที่ทำให้เราอยากจะเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ ซึ่งวิธีเล่นค่อนข้างยาก ต้องเก็บอารมณ์ไว้ข้างใน และก็ด้วยความเป็น Artist ของเขา มันก็จะทำให้เขาดูเป็นเด็กที่น่าสงสารแต่ก็ดูเป็นเด็กที่พิเศษในตัวมันเอง สำหรับเอม พี่ชอบตั้งแต่ Audition คือเอมเล่นเป็นเด็กอัจฉริยะ เขาสามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้ภายในเสี้ยววินาที เป็นพี่ชายที่แสนดีและก็เป็นคนชั่วได้ภายในพริบตา เอมค่อนข้างมี Inner อยู่ข้างในสูง เขาจะมี Input ค่อนข้างเยอะมาก เพราะฉะนั้นเวลาร่วมงานกับเอมค่อนข้างสนุกและแชร์ไอเดียกัน”

พิสูจน์ความรักระหว่าง “สัตว์ประหลาด” และ “ตัวประหลาด” ในภาพยนตร์โรแมนติกทริลเลอร์ “แสงกระสือ 2” ในวันที่ 30 มีนาคม 2566 นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *