ตะลึงกับปรากฏการณ์อันน่าทึ่งของมหามณฑป ที่สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการของพระเกจิดังด้านวิชาพลังจักรวาล ณ วัดโคกอู่ทอง เก่าแก่ในจังหวัดปราจีนบุรี ท้าทายกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ล่องแก่งที่แก่งหินเพิงกลางแม่น้ำใสสวยงามมากที่สุด และผ่อนคลายด้วยการจัดกระดูกและการสุมยาสมุนไพร ให้สมกับเป็นเมืองสมุนไพร (Herbal City)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5504-1-1024x683.jpg)
เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดปราจีนบุรี เราต้องขอเยี่ยมชมความอลังการและความสวยงามของมหามณฑปแห่งวัดโคกอู่ทอง ซึ่งได้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ไปแล้ว และเข้ากราบสรีระสังขารไม่เน่าไม่เปื่อยของหลวงปู่โสฬส ยโสธโร ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว โดยทางเข้าเป็นรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ เป็นศิลปะผสมไทยและโรมัน ประดับด้วยครุฑและสิงขรรายล้อมแท่น
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5531-2-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5532-2-1024x683.jpg)
คุณสมชัย ยาจันทร์ทา ผู้ออกแบบ ควบคุมการก่อนสร้าง มหามณฑปหลังนี้ พร้อมกับภรรยา กนกวรรณ เล่าให้ฟังว่า “ถ้าท่านมรณภาพแล้วไม่ต้องเผาท่าน ร่างกายของท่านจะไม่เน่าไม่เปื่อย ให้สร้างมณฑป เพื่อเก็บสรีระของท่านไว้ เมื่อครบ 1 ปี จะมีการเปลี่ยนถวายจีวรใหม่ให้ท่าน ลูกศิษย์จึงได้อธิฐานไว้ว่า ถ้าร่างกายมีการเน่าเปื่อยจะขออนุญาตเผา แต่ร่างกายไม่เน่าไม่เปื่อย อย่างที่ท่านสั่งเอาไว้ ก็จะมีการสร้างมณฑปต่อ จึงเป็น มหามณฑป มาถึงทุกวันนี้
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5525-1-1024x683.jpg)
“ผมคือผู้ออกแบบและดูแลการก่อสร้างที่นี่ทั้งหมด คุณเดชา (ศุภฤทธิ์ พิมพ์พระวัตร) เป็นประธานจัดหาทุน มาร่วมกันก่อสร้างที่นี่ ใช้งบประมาณ 90 กว่าล้าน บนเนื้อที่ 7 ไร่กว่า ใช้เวลาประมาณ 7 ปี เหลืออีก 2 วันจะครบสัญญากับท่านว่าขอเวลา 5 ปีก็เลยรีบเชิญท่านมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ท่านจะสั่งเอาไว้เลยว่า ถ้าจะทำมณฑปถวายท่าน ให้เปิดข้างบน ท่านเรียนวิชาพลังจักรวาล ท่านทำหยินหยางเอาไว้ให้ลูกหลานได้มากราบไหว้ขอพร ถ้าท่านมองเห็นรูปภาพบนกำแพง จะมีลำแสงจากข้างบนท้องฟ้าลงมาที่มณฑปเวลาคนมาขอพร มีคนถ่ายรูปและส่งกลับมาให้เรา”
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221015_110151-1-576x1024.jpg)
มหามณฑป ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2556 หนึ่งปีหลังจากการมรณภาพของหลวงปู่ ในสไตล์ยุโรปร่วมสมัย สูง 32 เมตร กว้างและยาว 24 เมตร ตรงกลางมีโดมสูงประดับประดาด้วยลวดลายตะวันตกแบบโรมัน ด้านบนสุดมีสัญลักษณ์กากบาทอยู่ตรงกลาง แสดงถึงอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ธรรมแห่งความสำเร็จทั้งปวง และมีกระจกสีฟ้าและสีเขียวแทนท้องฟ้าอันบริสุทธิ์รายล้อมไปด้วยดอกไม้ทิพย์และเทวดา แบกรับด้วยเสาโรมันขนาดใหญ่ 4 ต้นและขนาดเล็กกว่า 16 ต้น กับลวดลายพฤกษชาตินานาพรรณ พลังจักรวาลจากยอดโดมจะพุ่งผ่านอิทธิบาท 4 ลงมาที่พื้นตรงกลางสู่วงเวียนแห่งพลังหยินหยางและกระจายออกไปสู่ 12 นักกษัตร
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221015_110203-1-576x1024.jpg)
คุณสมชัย เล่าต่อว่า “เป็นฝรั่งเศสด้วย ทั้งไทยทั้งฝรั่ง เสาทุกต้นมีใบมะพร้าว หลวงปู่ท่านบอกว่าลูกหลานที่เข้ามาถึงวัดโคกอู่ทองเป็นคนที่สุดยอดที่สุดดังนั้นเสาทุกต้นต้องมียอดไม้ ส่วนตรงกลางจะมีเทวดาถือดอกไม้ อาหาร เงินทองมาให้กับลูกหลาน และด้านบนเปิดทะลุได้ มีแสงข้างบนลงมาเป็นพลังจักรวาล ประมาณเดือนมีนาคม พระที่มาจากเชียงใหม่ มากราบไหว้ที่นี่และก็รีบออกไป ตรงนี้มีพลังแรงมาก คนก็วิ่งตามไปและถ่ายรูปส่งกลับมาให้เราว่ามีแสงแบบนี้อยู่ข้างบน ที่ตรงนี้หลวงปู่เป็นคนเลือก ท่านก็บอกให้สร้างพระใหญ่ตรงนั้น มณฑปนี้สีเขียว ท่านบอกว่าสีเขียวเกี่ยวทรัพย์ให้ลูกหลานมีเงินมีทอง ด้านซ้ายมือของมณฑปจะเป็นร้านกาแฟบนเนื้อที่ 1 ไร่รองรับคนได้ประมาณ 2-300 คน ถัดไปจะเป็นอาคารหลังใหญ่สูงเท่านี้และมีหลวงปู่หน้าตัก 12 เมตร อยู่ข้างบนโน้น ข้างล่างเราคิดว่าจะเอาหมอมารักษากระดูกให้ชาวบ้านฟรี ชั้นสองจะมีจักษุแพทย์ถ้าเราทำได้ ที่เห็นคือ 1 ใน 6 เท่านั้นเอง โครงการในอนาคตคือสร้างหลวงพ่อองค์ใหญ่หน้าตัก 12 เมตร เราจะมีลิฟขึ้นไปข้างบน ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ผมคิดเอาไว้ว่าผมจะสร้างอาคารหลังนี้ขึ้นมาให้คนเฒ่าคนแก่ขึ้นไปได้
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221015_110217-1-576x1024.jpg)
“ที่นี่้จะมี 5 จุด จุดที่หนึ่ง พระบรมสารีริกธาตุ ท่านได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระยาสังวร จุดที่ 2 พระนาคปรก เป็นพระประจำวันเกิดของหลวงปู่คือวันเสาร์ จุดที่ 3 คือ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานมาจากพระที่นั่งวิมาณเมฆ รัชกาลที่ 5 จริงๆ แล้วผมได้มาและไว้ที่บ้าน ถ้าเอาไว้ที่บ้าน เราก็กราบไหว้ได้แค่ครอบครัวเดียว ผมก็เลยอัญเชิญท่านมาไว้ที่นี่เพื่อให้ลูกหลานได้กราบไหว้ทุกคน จุดที่ 4 สมัยก่อนสร้างโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ผมร่วมสร้างและท่านประทานมาให้ รัชกาลที่ 9 ผมก็อัญเชิญมาไว้ที่นี่เมื่อวันที่ 13 จุดที่ 5 หลวงปู่สั่งเอาไว้ว่าให้สร้างมณฑปถวายท่าน ผมและภรรยาร่วมคิดกันว่า เราจะสร้างมณฑปอย่างไร ได้ปรึกษาคุณเดชาด้วย ถ้าเป็นทรงไทยมันต้องใหญ่อลังการมากๆ ก็เลยออกแบบมาเป็นลักษณะแบบนี้ ถ้าเป็นทรงไทยมีสรีระอยู่ มีจิตวิญญาณของท่านอยู่ ลูกหลานมาจะกลัว คุณเดชากับพวกเราทุกคนก็ซื้อไฟจากข้างนอกเข้ามาถนนใหญ่ประมาณ 2 ล้าน ใช้สำหรับวัดทั้งหมดค่าไฟเราเป็นคนออกเองทั้งหมด”
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_120413-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130725-1-1024x576.jpg)
อิ่มธรรมแต่ไม่อิ่มท้อง ไปหาอาหารกลางวันทานดีกว่าที่ Big Monkey Cafe & Bistro คาเฟ่และร้านอาหารสไตล์กลาสเฮ้าส์แห่งใหม่ ที่มีรูปปั้นเชฟลิงขนาดใหญ่กว่าคนกำลังยิ้มคอยต้อนรับตรงประตูทางเข้า กับบริวารอีกสามตัวที่ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ตั้งอยู่ระหว่างทาง
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130430-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130501-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_120800-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_120920-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_120815-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130435-1-1024x576.jpg)
ภายในร้านดูโล่งๆ โปร่งๆ บรรยากาศดี มีจุดให้ถ่ายรูปด้วย พร้อมรูปปั้นลิงและตุ๊กตาลิงวางกระจายไปทั่วร้าน เราได้ทานหลากหลายเมนู อาทิเช่น ทะเลพิโรธ ยำแซลมอนแซ่บ หมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง ไก่ทอดกรอบซอสมะนาว ข้าวไข่ข้น ปลาทอดสมุนไพร ต้มยำกุ้ง ผัดคะน้าน้ำมันหอย หมูสามชั้นทอดเกลือ
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130300-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_130624-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/InCollage_20221103_201400973-1024x1024.jpg)
หลังจากนั้น เราได้สั่งเครื่องดื่ม สตรอเบอรี่มัทฉะ (Strawberry Match) รสหวานๆ ตัดกับความขม ความเข้มข้นของ ช็อกมูสพาย (Chocolate Mousse Pie) ดีงาม
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5139-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5210-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5300-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5307-2-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5312-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5350-1-1024x683.jpg)
หลังจากได้เติมกำลังเรียบร้อยแล้ว เราได้เดินทางต่อไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ อำเภอนาคี เพื่อไปทำกิจกรรมล่องแก่งที่บริเวณแก่งหินเพิง ก่อนอื่นเราต้องเดินเท้า 2.5 กิโลเมตรไปยังจุดเริ่มต้นแล้วล่องผ่าน 6 แก่ง คือ แก่งหินเพิง แก่งผักหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร และ แก่งหูเห่า โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5366-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_172433-1-1024x576.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_20221014_171524-1-1024x576.jpg)
แล้วไปนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อนันตราปุระ ศูนย์พัฒนาการแพทย์แผนไทย อยู่ไม่ไกลจากล่องแก่ง เพื่อไปจัดกระดูก นวดคลายไมเกรนคลายเส้น ฝังเข็ม และ สุมยา นวัตกรรมใหม่เพื่อบรรเทาอาการระบบทางเดินหายใจกับสมุนไพร 9 ชนิด คือ กระวาน หอมแดง โกศหัวบัว พริกไทย ตะไคร้ มะนาว กานพลู พิมเสน และ มะกรูด คล้ายๆ กับการอบสมุนไพรเพียงแต่เราเอาแค่หัวเข้าไปเท่านั้น ครั้งละ 5-10 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5488-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5484-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5452-1-1024x683.jpg)
![](http://www.mrbadboygo.com/wp-content/uploads/2022/11/IMG_5459-1-1024x683.jpg)
เราทานมื้อเย็นที่ศักดิ์สุภา รีสอร์ท ที่พักของเรา เพื่อจะตื่นมาชมทุ่งดอกหงอนนาค ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ พร้อมๆ กับจิบอเมริกาโนร้อน ก่อนเก็บภาพความประทับใจ คุณลุงที่ดูแลเล่าให้ฟังว่า ดอกหงอนนาค ภาษาอีสาน เรียก หงอนเงือน และที่ใต้เรียกว่า น้ำค้างกลางเที่ยง เพราะว่าเมือกของดอกดูคล้ายหยดน้ำค้าง ได้นำมาหนึ่งกอเมื่อ 35 ปี ตอนนี้กระจายไปบนพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน ตุลาคมและพฤศจิกายน เป็น 2 เดือนที่ดอกสวยที่สุด เดือนธันวาคมดอกค่อยๆ ทยอยร่วง ขยายด้วยการแยกหน่อ เมล็ดปลูกได้แต่เปอร์เซ็นต์การงอกแค่ 0.5% เท่านั้น จริงๆ แล้ว ดอกหงอนนาคมี 3 สี คือ ม่วง ขาว ชมพู แต่ที่นี่้มีแต่สีม่วง