ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. เปิดให้บริการเยี่ยมชมตามปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 วันละ 2 รอบ เวลา 9.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. จำกัด 50 ท่านต่อรอบ สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยจองผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น ที่เบอร์ 02-136-6380
ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง เป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องป่าและระบบนิเวศที่ผสมผสานความสวยงามด้านภูมิสถาปัตยกรรม รวมถึงเป็นพื้นที่สีเขียวของคนกรุงเทพฯ บนที่ดินของ ปตท. จำนวน 12 ไร่ จากเดิมเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่าและเป็นที่ทิ้งขยะ โดยมีแนวความคิดที่จะ “สร้างป่าให้กับคนกรุงเทพฯ” โดยนำองค์ความรู้จากการปลูกป่ามาแล้ว 1 ล้านไร่ทั่วประเทศ มาต่อยอดเป็น “ป่านิเวศ” ที่จำลองป่ากรุงเทพฯ ในอดีต มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ดั้งเดิมและพันธุ์ไม้หายากกว่า 270 ชนิด โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการปลูกป่านิเวศ ของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ ร่วมกับองค์ความรู้การปลูกป่าของ ปตท. ออกแบบจัดสรรสัดส่วนพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ปลูกป่ากว่า 9 ไร่ พื้นที่แหล่งน้ำ 1 ไร่ และพื้นที่อาคารเพื่อการเรียนรู้ 2 ไร่
เมื่อเดินเข้ามาจะพบอาคารแสดงนิทรรศการโครงการป่าในกรุง ก่อสร้างด้วยดินผสมสีธรรมชาติ บริเวณนี้จะสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นสบายโดยธรรมชาติ แตกต่างจากตึกที่ก่อสร้างด้วยปูนก่ออิฐทั่วไป ภายในห้องแสดงนิทรรศการ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน
ส่วนแรกจะพาไปชมประวัติความเป็นมา ทฤษฎีการปลูกป่า และทฤษฎีของในหลวง ร. 9 ผ่านการนำเสนออันทันสมัย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ส่วนที่ 2 จะเป็นห้องแสดงภาพยนต์สั้นบอกเล่าเรื่องราวและเสริมสร้างจิตสำนึกในการปลูกป่า ซึ่งจะอธิบายถึงวิธีการปลูกป่าของโครงการป่าในกรุงโดยใช้หลักทฤษฎีของ ศ.ดร.อากิระ มิยาวากิ นักสร้างป่านิเวศชาวญี่ปุ่นที่ใช้กับโครงการปลูกป่าทั่วโลกกว่า 1,500 แห่ง คือการนำพันธุ์ไม้ท้องถิ่นดั้งเดิมในพื้นที่มาเพาะชำในถุงเพื่อให้รากแข็งแรงก่อนนำลงดิน และต้องปลูกพันธุ์ไม้หลายชนิดปะปนกันไปให้แข่งกันโตเหมือนอยู่ในธรรมชาติบนพื้นที่เนินดินที่ได้รับการออกแบบให้ไล่ระดับตามความสูง เพื่อให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างรวดเร็วและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้น หลังจากชมภาพยนต์สั้นเสร็จ
ส่วนที่ 3 คือโซนพื้นที่ป่าและเส้นทางเดินแบบ sky walk เพิ่มระดับความสูงไปเรื่อย ๆ ตามความสูงของพันธุ์ไม้ที่ปลูกภายในโครงการฯ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่
นอกจากการชื่นชมทัศนียภาพของธรรมชาติสีเขียวบนทางเดินลอยฟ้าแล้ว ยังมีหอคอยชมวิวที่เป็นดาวเด่นของที่นี่ หากใครมีแรงสามารถเดินขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อชมวิวแบบ 360 องศา รอบโครงการป่าในกรุงได้อีกด้วย ใครอยากสูดออกซิเจนให้เต็มปอดต้องลองมาเที่ยวสักครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
