Mae Hong Son Cross Country 2019 ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นครั้งที่สอง เป็นการแข่งขันวิ่งที่ยาวที่สุดในชีวิตของ MRBADBOY ในวัยนี้ 50+ เลยนะ ไม่ได้เวอร์นะ แต่สำหรับมือใหม่หัดวิ่ง ณ ตอนนี้ คือ 11.6 กิโลเมตร หรือ Mini Marathon
นอกจากระยะที่ผมลงแล้ว Mae Hong Son Cross Country 2019 มีระยะอื่นๆอีกด้วยคือ Fun Run (6 กม), Half Marathon (22.8 กม), และ Cross Country (42 กม) ซึ่งจัดโดยหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนและกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC (Young Enterpreneur Chamber of Commerce) แม่ฮ่องสอน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อส่งเสริม การท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วง Green Season หรือฤดูการท่องเที่ยวช่วง Low Season นั่นเอง ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติที่เขียวขจีและศิลปะวัฒนธรรมที่สวยงาม
เสื้อวิ่งปีนี้ เขาบอกว่าออกแบบด้วยความเคารพยิ่งต่อชาวลาหู่ เป็นสัญลักษณ์จากชนเผ่าชาติพันธุ์สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน สีต่างๆแต่ละสีที่นำมาใช้ล้วนมีความหมาย มีประวัติที่มา มีความอยู่เย็นเป็นสุขและมีความปรารถนาดีของชนเผ่าลาหู่ซ่อนอยู่ในนั้น … สีดำเป็นสัญลักษณ์ของมูเซอดำ (และสีของหมูดำ) … สีขาวเป็นสีของข้าวปุ๊ก หรือ อ่อผุ (ข้าวเหนียวนึ่งสุกที่เอามาตำและปั้นเป็นก้อนกลม เป็นเครื่องถวายต่อเทพเจ้าในช่วงปีใหม่) … สีแดงแทนเนื้อหมู เลือดหมู … และสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน แทนพืชพันธุ์ธัญญาหารและการเกษตร ความสวยของเสื้อมีคนหลายคนอยากได้และอยากซื้อ แต่ไม่มีแล้ว รอครั้งหน้าละกัน
ระยะทาง 11.6 กมจะเริ่มปล่อยเวลา 6 โมงเช้าหลังจากรุ่น Cross Country และ Half Marathon แต่จะออกจากที่พักตีห้า โดยปรกติ MRBADBOY จะตื่นก่อนประมาณตีสี่ เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายทานแป้งๆพวกขนมปังเพื่อจะได้ถ่ายด้วย ไม่งั้นวิ่งไปปวดท้องอึไปไม่ไหวแน่และจะทำให้เสียเวลาแน่ เมื่อมาถึงจุด Start/Finish ที่สนามบินแม่ฮ่องสอน ก็ต้องมีการวอร์มร่างกายโดยชาวลาหู่ ได้ยืดเส้นยืดสายพอสมควร
และแล้ว เวลาแห่งการท้าทายระยะทางที่ไกลที่สุดของ MRBADBOY ก็มาถึง เมื่อสัญญาณการปล่อยตัวก็ดังขึ้น นักวิ่งระยะนี้ก็มากเหมือนกันวิ่งผ่านจุด Start ที่สนามบินออกไปเจอตลาดสายหยุด เราได้วิ่งสวนกันกับพระสงฆ์หลายรูปที่กำลังออกมาบิณฑบาต เป็นภาพที่ MRBADBOY อดใจไม่ได้ที่จะเอามือถือออกมาถ่ายภาพสักหน่อย วิ่งมาได้ระยะหนึ่งก็มาเจอวัดจอมคำซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวง มีพระสงฆ์หลายรูปนั่งรอรดน้ำมนต์ให้กับนักวิ่งที่วิ่งผ่านมาด้วย นายแบดบอยต้องร้อง ว้าว! ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย แน่นอนก็รอถ่ายภาพพระสงฆ์ที่กำลังรดน้ำมนต์ให้กับนักวิ่ง
ไปกันต่อไม่ไกลนัก ก็จะเลี้ยวเข้าถนนแคบๆหน่อยจะผ่านกราฟฟิตี้ส่วนหนึ่งบนกำแพงทางด้านขวามือ และเจอจุดให้น้ำซ้ายมือ ก่อนที่จะขึ้นเนินเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาขึ้นไปจุดเริ่มต้นของความท้าทายที่เป็นไฮไลท์ของทุกเส้นทางยกเว้น Fun Run นั่นคือวัดพระธาตุดอยกองมู “Oh My God!” MRBADBOY ได้ร้องอุทาน หลังจากเห็นเส้นทางขึ้นเขาของวัดมีทั้งทางเรียบและทางขั้นบันได้แบบซิกแซ็กขึ้นไปตลอดแบบยาวๆไป เล่นเอาเหงื่อแตกกันเลยทีเดียวขนมปังในท้องหายไปหมดแล้ว เมื่อมาถึงก็จะเจอพระธาตุเจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญและจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพเมืองแม่ฮ่องสอนที่สวยงามในยามเช้า โอ้ว ว้าว! ความเหนื่อยแทบจะหายปลิดทิ้ง
ขาลงใช้เส้นทางรถยนต์ขึ้นลงวัด เมื่อลงมาถึงพื้นราบก็จะเจอกับกลุ่มนักวิ่ง Fun Run และมุ่งหน้าไปทางเดียวกับเขาที่วงเวียนหอนาฬิกา ก่อนที่ Mini Marathon จะวิ่งแยกไปอีกทาง ผ่านสนามกีฬาโรงเรียนเทศบาล สถานีขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ก่อนที่มาถึงจุดกลับตัว จะพบกับชาวแม่ฮ่องสอนในชุดชนเผ่าต่างๆ มายืนให้บริการน้ำและส่งเสียงเชียร์ “สู้ สู้” ตลอดเวลา ได้เห็นและได้ยินแล้วก็ชื่นใจทีเดียว
หลังจากนั้นเหลืออีกไม่กี่กิโลก่อนเข้าเส้นชัย เราก็ผ่านลานบินของสนามบินเห็นหมอกบนภูเขาที่สวยงาม ระหว่างทางเราก็ได้เห็นนักวิ่งชาวเขาและชาวลาหู่ใส่ชุดของเขามาวิ่งด้วย จนอดใจไม่ได้ขอสักภาพเมื่อมาถึงเส้นชัยที่จุด Finish พร้อมกับรับเหรียญและรูปแกะสลักไม้กะเหรี่ยงคอยาว ระยะเวลาที่ MRBADBOY ทำได้คือ 1:45:52 ชั่วโมง และความเร็วของการวิ่งคือ 6.7 กม/ชม ถือว่าใช้ได้ดีทีเดียว การพิชิต Mini Marathon ครั้งนี้ถือได้ว่าขาไม่มีอาการเจ็บ ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ
หิวแล้วสิ ขนมปังตอนเช้ามืดหมดไปนานแล้ว ก็รีบเข้าไปในบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับบริการอาหารและขนมพื้นเมือง เช่น ขนมวงที่ทำด้วยแป้งเป็นรูปวงกลมแบบเดียวกับขนมโดนัท … ขนมอาละหว่าทำมาจากแป้งข้าวเจ้าผสมกะทิและน้ำตาลอ้อย … ส่วยทะมินทำจากข้าวเหนียวสีออกดำๆนิดๆ … เป็งม้งหรือเบ็งม้ง หรือเค้กไทยใหญ่ ทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำอ้อย และอบแบบขนมหม้อแกง และอื่นๆอีกมากมาย คนที่มาเข้ามาก่อนก็จะได้ที่นั่งบนเสื่อพร้อมกับภาชนะที่ใส่สำรับอาหารที่เรียกว่า ขันโตก
การแข่งขัน Mae Hong Son Cross Country 2019 ไม่ได้แค่ทำให้ร่างกายแข็งแรงสุขภาพดี แต่ให้ความสวยงามทางธรรมชาติและได้รับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอีกด้วย … เจอกับปีหน้านะครับ
ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/mhscountry/
