เที่ยวสวนสามพราน เรียนรู้วิถีอินทรีย์ ชีวิตปลอดสารเคมี

สวนสามพราน จังหวัดนครปฐม ชื่อนี้ได้ยินมานานมาก แต่เพิ่งรู้ไม่นานมานี้ว่าเปิดมาเกือบ 60 ปีแล้ว หลังจากที่ MRBADBOY ได้เข้าร่วมทริป “หิ้วตะกร้าเข้าสวน เรียนรู้วิถีอินทรีย์” ในการสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย น่าสนใจ ต้องลองไปดูกันหน่อย

จริงๆ แล้ว นครปฐมห่างจากกรุงเทพแค่เพียง 56 กิโลเมตรเอง บนถนนเพชรเกษม พอถึงกิโลเมตรที่ 32 ก็จะเจอป้ายสวนสามพรานเด่นชัด และที่นั่น เราจะพบปะกับคุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการสวนสามพราน ผู้ซึ่งได้เล่าให้เราฟังเกี่ยวกับเรื่องสามพรานโมเดลและ Organic Tourism ในอาคารสัมนา สามพรานโมเดลอะเคเดมี่ (Sampran Model Academy)

คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการสวนสามพราน ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องสามพรานโมเดล และ Organic Tourism

Organic Tourism ไม่ใช่แค่ไปดูฟาร์ม เที่ยวฟาร์มและถ่ายรูป แต่ให้ผู้บริโภคเข้าใจการเปลี่ยนแปลงว่า แต่ก่อนเขาเคยพึ่งพาสารเคมี พ่อค้าคนกลาง แล้วตอนนี้ พอเขาทำเกษตรอินทรีย์ และมีผู้บริโภคเป็นลูกค้า ชีวิตเขาจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เป็นฟาร์มผลิตจริง ไม่ใช่ฟาร์มคาเฟ่ที่มีไว้ให้ถ่ายรูป เราเน้นอยากสร้างสังคมอินทรีย์ แต่ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ”

ปัจจุบันนี้ สวนสามพรานมี 3 แบรนด์ คือ “สวนสามพราน” มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ประกอบด้วย โรงแรม ห้องพัก และห้องอาหาร “ปฐม” ประกอบด้วย ปฐมออร์แกนิกวิลเลจ หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์ตามวิถีชีวิตแบบไทย, ปฐมออร์แกนิกฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์บนพื้นที่กว่า 10 ไร่, ปฐมออร์แกนิกสปา ร้านนวดสปาสไตล์ไทย, ปฐมช็อปร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสวนสามพราน และปฐมออร์แกนิกคาเฟ่ และ “สามพรานโมเดล” เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องเกษตรอินทรีย์ เมื่อประมาณ 10 ปี ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคมไปแล้ว

คุณอรุษ พูดว่า “สามพรานโมเดลคือการขับเคลื่อน วิสัยทัศน์ของเราคือสังคมอินทรีย์ โดยที่เราใช้ กลยุทธ์คือให้ทุกคนมาทำธุรกิจเกื้อกูลสังคมด้วยกัน เรามองว่าเกษตรกรเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และชวนโรงแรมและร้านอาหารอื่นๆ มาด้วย ชวนผู้บริโภคลูกค้าของเราเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ในการทำธุรกิจเกื้อกูลสังคม ส่วนปฐมเป็นแบรนด์สุดท้าย เรามีปฐมออร์แกนิกวิลเลจ ปฐมออร์แกนิกไก่วิลเลจ ผมมองว่า คุณค่าที่มอบให้ก็คือวิถีอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็น product ของกินของใช้อะไรต่างๆ

“เรามีนโยบายและข้อปฏิบัติในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน และเป้าหมายของเราก็คือว่า เรากำลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์” คุณอรุษ เล่าต่อว่า “พื้นที่ทั้งหมดคือเส้นทางอาหารของสวนสามพราน ที่เราอิงกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circle of Economy) เราซื้อวัตถุดิบส่วนใหญ่ประมาณ 70% จากเกษตรกรในตลาดสุขใจ ปรกติเกษตรกรได้ราคาจากคนกลาง คนกลางคือคนที่กำหนดราคาให้กับเขา เป็นการธุรกิจที่แย่มาก เกษตรกรทั่วประเทศอยู่ในภาวะนี้ 20 กว่าล้านคน 1 ใน 3 ของประเทศ กำหนดราคาไม่ได้ เราบอกเขาว่า คุณขายให้เราในราคาที่คุณได้กำไร และเป็นราคา fixed ทั้งปี ไม่ใช่ว่าของไม่มี ก็ให้ราคาสูง ก็ไม่มีของขาย พอมีของเยอะ ราคาก็ต่ำ นี่คือชีวิตของเกษตรกรที่ไม่แน่นอน และไม่ยั่งยืน เราคุยกับเขาเหมือนการดีลธุรกิจ

“เรามี Thai Organic Platform ของสามพรานโมเดล ยกให้กับสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย เราได้ทุนจาก NIA สถาบันนวัตกรรมแห่งชาติ ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ส่วนแรก คือ เกษตรกรที่ทำอินทรีย์ จะใส่ข้อมูลในการเกษตรทั้งหมด ตั้งแต่ เตรียมปัจจัยการผลิต เตรียมเมล็ดพันธุ์ เตรียมดิน เตรียมแปลง การปลูก การดูแลรักษา เก็บเกี่ยว ถึงขาย เป้าหมายของเราก็คือให้สร้างความโปร่งใสตลอดห่วงโซ่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น สุดท้ายแล้ว วัตถุดิบอินทรีย์ไม่เหมือนสินค้าอินทรีย์หรือสินค้าอื่นๆ เราไม่ได้ขายแค่สุขภาพว่า กินอินทรีย์แล้วสุขภาพดี แต่ขายความเชื่อมั่นด้วย ส่วนที่สาม เรื่องการท่องเที่ยว การเรียนรู้ ถ้ามาเที่ยวนครปฐม เราก็จะเห็นเกษตรกร 180 ครอบครัว เขาก็จะมีกิจกรรม เราไปดูได้ว่าเขาขับเคลื่อนอย่างไร เราไปตรวจแปลงกับเขาก็ได้ เพราะฉะนั้นมันก็จะเกิดการท่องเที่ยวอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่ลุกขึ้นมาสร้างโปรแกรม เราจะไปเห็นวิถีของเขาจริงๆ”

เราได้เดินชมตลาดสุขใจ ที่อยู่ใกล้ๆ กับอาคารสัมมนา เป็นตลาดไม่ใหญ่นัก มีประมาณ 60 กว่าแผง มีทั้งอาหารคาวหวาน และผักสดๆ มากมาย และที่สำคัญปลอดภัยต่อชีวิต เนื่องจากปลอดสารเคมี

คุณอรุษ กล่าวว่า “ตลาดสุขใจ เป็นพื้นที่เรียนรู้ เรามองตลาดที่ผู้ผลิตหรือเกษตรกรและผู้บริโภค ไม่รู้จักกันเลย ได้มาเจอกัน ได้มาคุยกัน ได้มาซื้อขายกัน สวนสามพราน เป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง เราไม่ได้มองว่า เราเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมและร้านอาหาร เปลี่ยนแปลงคือร่วมกันขับเคลื่อนสังคมเกษตรอินทรีย์ ในการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เราเชื่อมตั้งแต่ต้นน้ำ เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค มาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เรายกระดับเกษตรกร ไม่ใช่แค่เกษตรกรอินทรีย์ แต่ให้ทำธุรกิจเป็น ให้ซื้อขาย ทำประชาสัมพันธ์เป็น สื่อสารกับผู้บริโภคเป็น วางแผนการตลาด ให้เขาอยู่ได้อย่างยั่งยืน”

MRBADBOY สะดุดตาตรงแผงหนึ่ง กิมจิต้นอ่อนผักบุ้ง ของคุณดิเรก ขำคง สมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ร่วมใจ ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของสามพรานโมเดล วัตถุดิบหลักของเขาคือ ต้นอ่อนผักบุ้ง ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย กิมจิต้นอ่อนผักบุ้ง ผ่านการตรวจโดยสถาบันพัฒนาอาหารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พบว่า มี Lactic Acid สองล้านตัวต่อหนึ่งกรัม หนึ่งกระปุกมี 350 กรัม จะมี Lactic Acid อยู่ 700 ล้านตัว ซึ่งจะช่วยดูแลลำไส้โดยตรง คนเป็นมะเร็งทานได้ คนเป็นเบาหวานก็ทานได้ รสชาติ จะเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี เกิดจากการย่อยของ Bacteria ที่มีชื่อว่า Lactic Acid Bacteria พอย่อยเสร็จ เปลี่ยนจากน้ำตาลที่อยู่ในผักมาเป็นกรด Lactic ซึ่งจะไปยับยั้ง Bacteria ที่ไม่ดีในร่างกายในลำไส้ไม่ให้เจริญเติบโต ช่วยควบคุมให้ลดน้อยลง และก็เพิ่ม Bacteria ที่ดีให้มากขึ้น นอกจากนี้ เขาได้รับใบ Certificate เป็นผักที่ปลอดภัยจากสารเคมี หลังจากนำต้นอ่อนผักบุ้งส่งตรวจที่คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

กิมจิต้นอ่อนผักบุ้ง

คุณดิเรก เล่าให้ฟังว่า “เมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนนั้นกระแสของต้นอ่อนทานตะวันดังมาก เราก็อยากกิน แต่ปรากฎว่า แฟนกินแล้วเกิดอาการคันปาก ก็แสดงว่ามันมีสารบางตัวที่ไม่โอเคร อาจจะเป็นธรรมชาติของทานตะวัน ก็เลยคิดถึงผักบุ้ง เราก็เลยมาปลูกต้นผักบุ้งและคิดค้นพัฒนา เพราะว่าผักบุ้งอยู่คู่กับคนไทยมานาน แต่ว่าเป็นต้นใหญ่มากกว่าและมีความแข็งกระด้าง ถ้าเกิดว่าเป็นต้นอ่อน น่าจะกินง่ายกว่า จริงๆ แล้วเคยลองกินมาแล้วและลองปลูกดูเล็กๆ น้อยๆ ไม่จริงจัง พอมาปลูกกันเยอะๆ ปัญหาก็เกิด ซึ่งเมื่อก่อนเราหาข้อมูลใน YouTube มันไม่มีใครปลูก เราลองผิดลองถูกอยู่สองปี ต้นเป็นเชื้อราบ้าง ต้นไม่สูงบ้าง เสียหายไปเยอะ จนต้นผักบุ้งสวยขาวยาวอวบ เราก็เริ่มเปิดตลาดเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วเราก็คุยกันว่า เราจะทำต้นอ่อนผักบุ้งที่หลายคนไม่ค่อยได้รู้จัก ให้มันดังขึ้นทั่วประเทศ จากวันนั้นถึงวันนี้ ติดอันดับหนึ่งของประเทศไทย

ต้นอ่อนผ้กบุ้ง

“พอเราปลูกได้ต้นสวยแล้ว เราก็ตัดเป็นต้นสดขาย เวลามันขายไม่หมด มันจะเก็บได้เพียง 7 วันในช่องแช่ผัก มันก็จะเหี่ยว เราก็หันมาทำกิมจิที่พัฒนาสองปี ในการคิดค้นสูตรและพัฒนาขึ้นมา เราใช้พริกของเกาหลีและพัฒนาจากสูตรเดิมมาเป็นของเรา เราจะปรับสูตร อย่างเช่น น้ำ น้ำตาล เราไม่ใส่ เราจะให้น้ำที่สกัดจากลูกสาลี่ เพื่อต้องการไปเลี้ยง Bacteria ซึ่งจะกินความหวานจากน้ำตาลและโปรตีนจากผัก สำหรับต้นหอมและแครรอท มาปรับให้มันกลมกล่อมยิ่งขึ้น ใช้เวลาหมักสามเดือน เพื่อให้ Bacteria ค่อยๆ กินเข้าไป พอมันกินแล้ว กระบวนการเมตาบอลิซึม Metabolism มันก็จะปล่อยกรดออกมา เราเรียกว่า กรด Lactic มันจะมีความเปรี้ยวโดยธรรมชาติ ต้นอ่อนผักบุ้งมันอ่อนไม่ต่างไปจากผักกาดขาวเลย แถมกรอบอร่อยกว่าด้วยซ้ำ และก็มี texture จะได้เสียงกรุบๆ ในปาก เหมือนเราเอาต้นอ่อนไปผัดน้ำมัน มันจะมีความกรอบความนุ่ม แต่พอเอามาทำกิมจิ ความกรอบจะไม่หายไป texture ไม่หายไป และยังมีความเปรี้ยว ความกลมกล่อมอีกด้วย”

และอีกแผงหนึ่ง กับน้ำมะเฟืองหวานสกัดเย็น ของคุณเก่ง-บัณฑิต เกิดมณี หัวหน้ากลุ่มเกษตรอินทรีย์ร่วมใจ ผู้ซึ่งปลูกผลไม้ผสมผสาน หลักๆ คือมะเฟืองและชมพู่ บนเนื้อที่ 7 ไร่ มะเฟืองประมาณ 3 ไร่ 300 กว่าต้น

น้ำมะเฟืองหวานสกัดเย็น

คุณเก่ง พูดว่า “เวลามันช้ำ ของมีตำหนิไม่สวย เราก็เอามาแปรรูปเพื่อเป็น Zero Wave เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย พวกกากเอาไปทำแยมทำน้ำหมักได้ ก็คือ เอามาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ มะเฟืองเป็นพระเอก เพราะว่าเราเน้นการปลูกพืชผสมผสาน มีรายวัน รายเดือน รายปี และพืชที่ออกตลอดทั้งปี ก็คือมะเฟือง ในระหว่างที่เรารอผลไม้รายปี ตัวนี้ออกมาหล่อเลี้ยงครอบครัวได้ตลอด ในตลาดมะเฟืองขายดีพอสมควร น้ำสกัดเย็นตัวนี้ มันมีประโยชน์ มันมีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidant ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ความดันโลหิต และป้องกันโรคโลหิตจาง ทำให้การเต้นของหัวใจสม่ำเสมอ คร่าวๆ ต่อไปอาจจะสกัดเย็นชมพู่”

ปฐมออร์แกนิกฟาร์ม
การย้ายต้นกล้าลงในกะลามะพร้าว

เรานั่งรถรางไบโอดีเซลของสวนสามพรานไปลงเรือเอี้ยมจุ๊นข้ามแม่น้ำท่าจีนไปยังปฐมออร์แกนิกฟาร์ม เพื่อเรียนรู้เรื่องดิน เมล็ดพันธุ์ การปลูก เพาะกล้าในเปลือกไข่ และการทำปุ๋ยชีวภาพ โดยคุณพศิน ทองบ่อ หัวหน้าปฐมออร์แกนิกฟาร์ม ผู้ซึ่งพาเดินชม พร้อมทั้งอธิบาย กิจกรรมการเรียนรู้เหล่านั้น ก่อนที่จะปล่อยให้เราหิ้วตะกร้าเก็บผักสดๆ ในสวน เพื่อไปทำอาหารกินกันเอง

เรียนรู้เรื่องดินชนิดต่างๆ

ออร์แกนิกฟาร์ม เราจะได้ลองผักอินทรีย์ใน 30 ไร่ของเรา เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องน้ำ ดิน ชีวพันธุ์ต่างๆ ที่เราทำกันขึ้นมา จะให้ทุกท่านที่อยากได้ต้นไม้นำกลับ ก็สามารถที่จะย้ายต้นกล้าลงในเปลือกไข่ หรือกะลามะพร้าว สิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้วันนี้ เราจะดูเรื่องเกี่ยวกับการพักเมล็ดพันธุ์ด้วย การเก็บเกี่ยว วงจรของฟาร์ม วิธีการปลูกพืชผักแบบอินทรีย์ เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ ห้ามดูดบุหรี่ ฝ่าฝืนปรับ 1000 บาท”

ข้าวห่อใบบัว ประกอบไปด้วยข้าว หมูออร์แกนิกแดดเดียว ปลาผัดพริกขิง

หลังจากนั้น กลุ่มของเราได้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อที่จะทำอาหารจากวัตถุดิบที่เขาจัดไว้ให้ ผัดสดๆ ปลอดสารพิษ แต่จริงๆ แล้ว เขาได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้เราด้วย เป็น ข้าวห่อใบบัว แต่ต่างจากที่เคยเห็น คือมีข้าว หมูออร์แกนิกแดดเดียว ปลาผัดพริกขิง แกงส้มผัก น้ำพริก อยู่ในใบบัว พร้อมทั้งของหวานและน้ำสมุนไพร เรียกได้ว่าออร์แกนิกจริงๆ เลย MRBADBOY ดีใจมากที่ได้กินน้ำพริกกับผักสดๆ ปลอดภัย

ปฐมออร์แกนิกวิลเลจ กับกิจกรรมผ้ามัดย้อม

นั่งเรือกลับไปที่หมู่บ้านปฐมออร์แกนิกวิลเลจ ที่เป็นบ้านทรงไทยสวยงาม เพื่อทำกิจกรรมผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ

ปฐมออร์แกนิกคาเฟ่กับกาแฟน้ำมะพร้าวและชุดขนมไทย

และเดินถัดมาเล็กน้อย มาที่ปฐมออร์แกนิกคาเฟ่ เพื่อจิบชา กาแฟออร์แกนิก และขนมไทยๆ ที่มาเป็นเซ็ต

ห้องกับวิวเวิ้งโค้งแม่น้ำท่าจีน

แล้วมาเช็คอินที่โรงแรมสามพราน และมีเวลาเดินชมแถวริมน้ำ

พระอาทิตย์ตกหน้าร้านอาหารอ้อยหวาน

ก่อนที่จะนั่งเรือชมบรรยากาศยามเย็นของแม่น้ำท่าจีน เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอ้อยหวาน อาหารอร่อย บรรยากาศริมน้ำสุดแสนโรแมนติค

สวนสามพราน

กม. 32 ถนนเพชรเกษม, อ.สามพราน จ.นครปฐม, 73110

CALL: +66 34 322 588-93

EMAIL: hotel@suansampran.com

www.suansampran.com

www.facebook.com/SuanSampran.Thailand

Instagram: suansampran

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *