7 นโยบายพลิกโฉมการท่องเที่ยวและกีฬาไทย

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศ 7 นโยบายหลัก ชูซอฟต์พาวเวอร์เป็นขุมพลังใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ขยายวันพักค้างเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพื่อเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดที่ 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2567 พร้อมส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ และกีฬาอาชีพ ตลอดจนเดินหน้าเพิ่มมูลค่ากีฬาไทยในอุตสาหกรรมกีฬาโลก

นโยบายที่ 1 ส่งเสริมให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยคึกคักตลอดทั้งปี (365 วัน) เน้นการกระจายตัวนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เพิ่มความถี่ในการเดินทาง ขยายจำนวนวันพักค้าง และเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รวมทั้งยกระดับกิจกรรมต่างๆ ในระดับชุมชนให้เป็นระดับนานาชาติ อาทิ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์, นโยบายที่ 2 ใช้พลังของ Soft Power เข้ามาเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการกีฬาของประเทศไทยให้เป็น “The New Power Engine” และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน Demand และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย

นโยบายที่ 3 จะยกระดับความปลอดภัยทั้ง Hospitality และ Safety แก่นักท่องเที่ยว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัดผ่านศูนย์ CCOC โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวผ่านรูปแบบรถโมบายล์ถ่ายทอด และสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านการอบรมอาสาสมัครเข้าร่วมหลักสูตรดูแลนักท่องเที่ยวกว่า 600 ราย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1155 ที่มีระบบเชื่อมไปยังสถานีตำรวจและศูนย์นเรนทรซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรับเรื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และเป็นศูนย์กลางการประสานงานของหน่วยงานต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตที่สามารถเข้าช่วยเหลือในทันที

นโยบายที่ 4 มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยจะขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และบูรณาการร่วมกันกับท้องถิ่น ในการนำเสนอสินค้าท้องถิ่นและกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายเตรียมพัฒนาสู่ความยั่งยืนตามแนวทางการท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) และการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All), นโยบายที่ 5 ใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นโยบายที่ 6 เร่งพัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาให้สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคนปกติ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส โดยนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับนักกีฬาไทย เพื่อเตรียมความพร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ กีฬาอาชีพ รวมไปถึงส่งเสริมกิจกรรมกีฬาใหม่อย่าง E-Sport สร้างทักษะให้กับเยาวชนรวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก และ นโยบายที่ 7 เตรียมพร้อมสำหรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งปี 2567 จะมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการทั้งการส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬา โอลิมปิกปารีส 2024 และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่เอเชียนอินดอร์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์จักรยานยนต์โมโตจีพีเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024รวมถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่งมี 3 จังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *