TAGTHAi แอปพลิเคชันเพื่อการท่องเที่ยวแห่งแรก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไทย และผลักดันแอปพลิเคชั่น TAGTHAi (ทักทาย) ให้เป็น Thailand’s Official Tourism Platform ด้านการท่องเที่ยวที่น่าเชื่อถือและครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นการตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐ ในการนำเทคโนโลยีและข้อมูลของทั้งภาครัฐและเอกชนมาใช้ประโยชน์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงสร้างเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “TAGTHAi ในฐานะ Super Aggregator Platform จะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างครบวงจร โดยจะส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางด้วยตนเองมากขึ้นผ่านการนำเสนอบริการการท่องเที่ยวที่เข้าถึงวิถีชีวิต สอดรับกับแนวทาง Soft Power ชูจุดเด่นของแต่ละท้องถิ่น ควบคู่กับการสร้าง Meaningful Travel ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ตลอดจนร่วมกันผลักดันเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2567 เร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืนอย่างแท้จริงตามนโยบายของรัฐบาล”

นายกลินท์ สารสิน ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะจัดการ บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง TAGTHAi Platform กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลได้ เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เรามีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เป็นจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก โดยเริ่มต้นจากการพัฒนา TAGTHAi Super Aggregator Platform ด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบดิจิทัลที่ตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ในปี 2566 ได้จัดทำซิตี้พาสท่องเที่ยวแบบครบวงจร กิน เที่ยว ครบ จบในพาสเดียว ที่จังหวัดเชียงใหม่และเมืองพัทยา และได้รับผลตอบรับอย่างดีมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในปีนี้ TAGTHAi มีแผนที่จะขยายซิตี้พาสไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง เพื่อสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวในปัจจุบันที่นิยมการเดินทางเพื่อสัมผัสมนต์เสน่ห์ท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากอีกด้วย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *