“คุณชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนหน้านี้ออกมาโพสต์ตามหา นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต และ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทยที่ประเทศญี่ปุ่น จนเกิดประเด็นดรามาแรงว่าหิวแสง ร่วมพูดคุยประเด็นใหม่ที่ร้อนแรงกว่าเอี่ยวกับคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่หวังดีออกมาประกาศช่วยเหลือแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล แต่เจ้าตัวกลับไม่เห็นด้วย แถมว่าสะเหล่อกลางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
คุณไปชูป้ายตามหา อ.ปวิน ที่ญี่ปุ่น มันดูน่ากลัวมากนะ?
ผมถามก่อนนะครับการที่ชูป้ายตามหาปวิน มันน่ากลัวอย่างไร ผมไม่ได้มีอาวุธ มีมีด ไม่ได้มีปืน ผมไม่ได้เจาะจงว่าใครครับ
ใครๆก็รู้กันว่า อ.ปวิน ลี้ภัยต่างประเทศด้วยกรณีอะไร คุณเป็นนักการเมือง ไปหาทำไม?
อาจารย์ครับ ผมมีสมาชิกครอบครัวท่านนึง อยู่เมืองโอซาก้า ผมใช้เวลาที่ญี่ปุ่น 2 วันกว่า ผมก็บินกลับแล้ว ที่ผมไปชูป้ายคือการสร้างคอนเทนต์เฉยๆ (คอนเทนต์หายิ่งศักดิ์ก็ได้นะคะ ไม่ต้องหาปวิน ทุกคนก็ขนลุกขนพอง ว่าจะไปทำอะไรปวินเขา)
อ.ปวิน ตอนนี้เขาแจ้งความแล้วนะคะ กลัวคนจะไปทำร้ายเขา?
อันนั้นเป็นสิทธิของเขา เขาหิวแสงขนาดนั้นก็เป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับผม ผมยืนยัน ผมไม่ได้ไปคุกคามใครทั้งสิ้นเลย เขาสร้างว่าเขาเป็นเหยื่อ แต่ผมกลับมองว่าผมเป็นเหยื่อด้วยซ้ำ รู้หรือเปล่าตอนนี้เขากำลังโปรโมทหนังสือเขาอยู่นะครับ
ทุกคนรู้ว่าเป็นบุคคลต้องห้ามกับการสื่อสาร มันจะกระทบหน้าที่ของคุณไหมคะ?
ผมไม่ได้คิดว่า จะมีคนมางับคอนเทนต์ตรงนี้ แต่เขามางับ ผมก็แสดงจุดยืนอย่างบริสุทธิ์ว่าผม ไม่ได้มีอะไรที่จะคุกคามทั้งสิ้น ผมกลับมองว่าผมเป็นเหยื่อด้วยซ้ำ เป็นเหยื่อการตลาดของเขาที่สร้างมารฟ์เก็ตติ้งให้เขา และโดนด้อมส้มมาลงทัวร์ที่ผมตลอด ผมทกลับมองว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักอย่างเลย
คุณพิธาแสดงความห่วงใยกับแรงงานที่ประเทศอิสราเอล คุณก็ไปโจมตีไม่ใช่หน้าที่เขา?
การช่วยมันมีการช่วยแบบกาลเทศะ กับการช่วยแบบสะเหล่อ การช่วยที่ไม่สมควร กรณีอย่างพิธา คือกรณีที่ 2 นะครับ ลองคิดนะครับ สมมุติผมเป็นบิดา ลูกทำงานอยู่อิสราเอล แล้วผมเป็นห่วง ผมส่งอีเมลไปหาคุณพิธาเสร็จ แล้วบังเอิญสมมุติพิธามีแฟนคลับเยอะมาก ส่งไปหลายพันอีเมล แล้วบังเอิญมันตกหล่น แล้วทีมงานคุณพิธาเขาไม่ไปเปิดอีเมลนั้น แล้วลูกของผมตาย คุณพิธาจะกล้ารับผิดชอบหรือเปล่า นี่เป็นเรื่องใหญ่นะครับ
แต่คุณพิธาแสดงเจตนาดีไม่ใช่เหรอคะ?
เจตนาดี แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาทำให้ทำงานทับซ้อน ทำให้เกิดความวุ่นวาย อันนี้ไม่ต้องทำดีกว่า พรรคของผมเราแสดงความห่วงใยเสร็จ เราก็โชว์เบอร์Hotline ให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนโทรไปหาได้ 24 ชั่วโมง คือสิ่งที่คุณพิธาควรจะแสดงความห่วงใย แล้วให้อีเมลสถานทูตไทยที่เทลอาวีฟ ให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยไปติดต่อโดยตรง อันนั้นคือการยิงตรง
นายกฯก็ไม่ใช่ หัวหน้าพรรคก็ไม่ใช่ สส.ก็ไม่ใช่ และก็ไม่ใช่เวลาหาเสียง?
ข้อเท็จจริงคือ ผมเป็น สส.สอบตก เขาก็เป็นนายกฯสอบตกเหมือนกัน มันก็เป็นข้อเท็จจริง คุณพิธาเขาไม่ควรทำสิ่งที่เขาทำนะ เป็นการหิวแสงมาก เรามีนายกรัฐมนตรี คือคุณเศรษฐา เรามีรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน เรามีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เรามีคนครบแล้ว ปล่อยให้ผู้ใหญ่ ผู้ที่มีหน้าที่ทางด้านกฎหมาย 100 % ได้ทำงานครับ
