“ญาญ่า” ชมฟาร์มแซลมอนและเทคโนโลยี่ที่นอร์เวย์

สภาพภูมิอากาศที่หนาวเหน็บยากต่อการอยู่อาศัยของผู้คนแต่กลับกลายเป็นสภาพแวดล้อมทางทะเลที่สมบูรณ์ นี่คือเหตุผลว่าทำไมชาวนอร์เวย์ถึงสืบทอดประเพณีการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่และยั่งยืนที่สุดในโลก พร้อมกับความเชี่ยวชาญทางชีววิทยาทางทะเล เทคโนโลยีล้ำสมัย และมาตรการที่เข้มงวด รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ

“ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” นักแสดงลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ และพรีเซนเตอร์คนแรกของ Seafood from Norway ในประเทศไทย ได้มีโอกาสเยี่ยมชมฟาร์มแซลมอนแบบดั้งเดิมและในมหาสมุทร ที่สะท้อนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการประมงแบบยั่งยืนที่เมืองเวสเตอโรลน์ ประเทศนอร์เวย์ ผ่านคลิปวิดีโอ “The Story from the North” ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน ธรรมชาติ และความยั่งยืน

ฟาร์มเลี้ยงปลาตั้งอยู่ในทะเลเปิด รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาดที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งฟยอร์ด แซลมอนถูกเลี้ยงในกระชังที่มีพื้นที่กว้างขวางกับพื้นที่น้ำ 97.5% ต่อปริมาณแซลมอน 2.5% ในทุก ๆ กระชัง มีการใช้เลเซอร์ที่ควบคุมโดยเทคโนโลยี AI เพื่อกำจัดเหาทะเลโดยไม่เป็นอันตรายต่อปลา ด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถระบุและติดตามปลาที่มีร่องรอยของเหาทะเลเกาะบนร่างกายได้อย่างแม่นยำ การทำฟาร์มแต่ละรอบจะมีการพักให้ระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่นั้น ๆ ได้ฟื้นฟู และมีการติดตามดูสภาพท้องทะเลอย่างใกล้ชิด

ผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ของนอร์เวย์ต่างได้มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์โซลูชันเพื่อทำการประมงในพื้นที่ทะเลเปิด โดยพัฒนารูปแบบจากฟาร์มตาข่ายแบบดั้งเดิมเป็นฟาร์มในมหาสมุทร หรือในลักษณะของเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ จากแนวคิดในการใช้ประโยชน์จากการคำนวณขนาดฟาร์มต่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำฟาร์ม และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถด้านการประมง จนเกิดเป็นการประมงสมัยใหม่ที่เป็นต้นแบบของประเทศอื่น ๆ กลายเป็นมิติใหม่แห่งการทำฟาร์มแซลมอน ใช้เซ็นเซอร์ Internet of Things (IoT) เพื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ และให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยนำข้อมูลเหล่านั้นมารันเป็นโมเดลแฝดของเรือแบบดิจิทัลด้วยโซลูชันบนคลาวด์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *